เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่ พุทธวจน คำสอนของพระศาสดา คำสอนตถาคต รวมพระสูตรสำคัญ อนาคามี เว็บไซต์เผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้า
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 อนุรุทธสูตรที่ ๒ (พระอนุรุทธ ถามพระสารีบุตร ว่าทำไมจิตจึงยังไม่หลุดพ้น) 1261
 

(โดยย่อ)

อนุรุทธสูตรที่ ๒
(อนุรุทธสอบถามปัญหาพระสารีบุตร ว่ามีความเพียรไม่ย่อหย่อน แต่ทำไมจิตจึงยังไม่หลุดพ้น)

พระสารีบุตรแนะนำให้ละธรรม ๓ อย่าง ดังนี้ (ติดนิวรณ์ข้อ4 และสังโยชน์เบื้องสูงข้อ3-4)
1. เป็นเพราะ มานะ (ถือตัว) ของท่านการที่ ท่านคิดอย่างนี้ ว่า ก็เราปรารภความเพียรไม่ย่อหย่อน ตั้งสติมั่นไม่หลงลืม กายสงบระงับไม่ระส่ำระสาย จิตตั้งมั่นเป็นเอกัคคตา

2.เป็นเพราะ อุทธัจจะ
(ฟุ้งซ่าน) ของท่าน ถึงการที่ ท่านคิดอย่างนี้ว่า เออก็ไฉนเล่า จิตของเรา ยังไม่พ้นจาก อาสวะเพราะไม่ถือมั่น ดังนี้

3.ก็เป็นเพราะ กุกกุจจะ
(ใจไม่สงบ คิดซัดซ่าย) ของท่าน เป็นความดีหนอ (คิดว่ากุกกุจจะ เป็น ความดี)

ครั้งนั้นแล ท่านพระอนุรุทธะ ต่อมาได้ละธรรม ๓ อย่างนี้ ไม่ใส่ใจถึงธรรม ๓ อย่างนี้ น้อมจิต ไปใน อมตธาตุ และหลีกออกจากหมู่อยู่ผู้เดียว เป็นผู้ไม่ประมาท มีตนอันส่งไปอยู่ ไม่นานนัก ได้ทำ ให้แจ้งซึ่งที่สุดแห่งพรหมจรรย์ อันยอดเยี่ยม
--------------------------------------------------------------------------------------------
นิวรณ์ 5
1. กามฉันทะ - ความพอใจ ติดใจ ในกามโลกีย์
2. พยาบาท - ความไม่พอใจ คิดพยาบาท
3. ถีนมิทธะ - ความขี้เกียจ ท้อแท้ อ่อนแอ หมดอาลัย

4. อุทธัจจะกุกกุจจะ - ความคิดซัดส่าย ไม่สงบนิ่ง (เหมือนน้ำในภาชนะกระเพื่อม)
5. วิจิกิจฉา - ความไม่แน่ใจ ลังเลใจ สงสัย กังวล

อุทธัมภาคิยสังโยชน์ (สังโยชน์เบื้องสูง 5 )
๑. รูปราคะ (ความติดใจในอารมณ์แห่งรูปฌาน)
๒. อรูปราคะ (ความติดใจในอารมณ์แห่งอรูปฌาน)

๓. มานะ (ความถือตัว)
๔. อุทธัจจะ (ความฟุ้งซ่าน)
๕. อวิชชา (ความไม่รู้แจ้ง)
เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง  เล่มที่ ๒๐ หน้าที่  ๒๖๘


อนุรุทธสูตรที่ ๒
(อนุรุธสอบถามปัญหาพระสารีบุตร ว่ามีความเพียรไม่ย่อหย่อน แต่ทำไมจิตจึงยังไม่หลุดพ้น)

         [๕๗๐] ครั้งนั้นแล ท่านพระอนุรุทธะได้เข้าไปหา ท่านพระสารีบุตร ถึงที่อยู่ ได้ปราศรัยกับท่านพระสารีบุตร ครั้นผ่านการปราศรัย พอให้ระลึกถึงกัน ไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วกล่าวว่า

ขอโอกาสเถิดท่านสารีบุตร ผมตรวจดูตลอดพันโลก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์ ก็ผมปรารภ ความเพียรไม่ย่อหย่อน ตั้งสติไม่หลงลืม กายสงบ ระงับไม่ระส่ำระสาย จิตตั้งมั่นเป็น เอกัคคตา เออก็ไฉนเล่า จิตของผมจึงยังไม่พ้น จากอาสวะ เพราะไม่ถือมั่น

ท่านพระสารีบุตรกล่าวว่า

ดูกรท่านอนุรุทธะ การที่ท่านคิดอย่างนี้ว่า เราตรวจดูตลอดพันโลก ด้วยทิพยจักษุ อันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์ ดังนี้

เป็นเพราะมานะ ของท่าน
การที่ท่านคิด อย่างนี้ ว่า ก็เราปรารภความเพียรไม่ ย่อหย่อน ตั้งสติมั่นไม่หลงลืม กายสงบระงับไม่ระส่ำระสาย จิตตั้งมั่นเป็นเอกัคคตา ดังนี้

เป็นเพราะอุทธัจจะ ของท่าน ถึงการที่ท่านคิดอย่างนี้ว่า เออก็ไฉนเล่า จิตของเรา ยังไม่พ้นจากอาสวะเพราะไม่ถือมั่น ดังนี้

ก็เป็นเพราะกุกกุจจะ ของท่าน เป็นความดีหนอ

ท่านพระอนุรุทธะ จงละธรรม ๓ อย่างนี้ ไม่ใส่ใจธรรม ๓ อย่างนี้ แล้วน้อมจิตไปใน อมตธาตุ

ครั้งนั้นแล ท่านพระอนุรุทธะต่อมาได้ละธรรม ๓ อย่างนี้ ไม่ใส่ใจถึงธรรม ๓ อย่างนี้ น้อมจิตไปในอมตธาตุ ครั้งนั้นแล ท่านพระอนุรุทธะ หลีกออกจากหมู่อยู่ผู้เดียว เป็นผู้ไม่ประมาท มีตนอันส่งไปอยู่

ไม่นานนัก ได้ทำให้แจ้งซึ่งที่สุดแห่งพรหมจรรย์ อันยอดเยี่ยม ที่กุลบุตรทั้งหลาย ออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องกันนั้น ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ รู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี

ก็แหละ ท่านพระอนุรุทธะได้เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง ในจำนวนพระอรหันต์ทั้งหลาย






พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย
อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์