พระไตรปิฎก ฉบับหลวง (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๐ หน้าที่ ๒๔๘
กูฏสูตรที่ ๑
[๕๔๙] ครั้งนั้นแล อนาถบิณฑิกคฤหบดี ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนแห่งหนึ่ง ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะเขาว่า
ดูกรคฤหบดี เมื่อบุคคลไม่รักษาจิต แม้กายกรรมก็เป็นอันไม่รักษา แม้วจีกรรม ก็เป็นอันไม่รักษา แม้มโนกรรมก็เป็นอันไม่รักษา
เมื่อเขาไม่รักษา กายกรรม ไม่รักษา วจีกรรม ไม่รักษามโนกรรม แม้กายกรรมก็เป็นอัน ชุ่มแล้ว แม้วจีกรรมก็เป็นอันชุ่มแล้ว แม้มโนกรรมก็เป็นอันชุ่มแล้ว เมื่อเขามีกายกรรม ชุ่ม มีวจีกรรมชุ่ม มีมโนกรรมชุ่ม
แม้กายกรรมก็เป็นของเสีย แม้วจีกรรมก็เป็นของเสีย แม้มโนกรรมก็เป็นของเสีย เมื่อเขามีกายกรรมเสีย มีวจีกรรมเสีย มีมโนกรรมเสีย การตายก็ไม่ดี การทำกาละ ก็ไม่งาม
ดูกรคฤหบดี เปรียบเหมือนเมื่อเรือนซึ่งมุงไว้ไม่ดี
แม้ยอดเรือนก็เป็นอันไม่ได้รักษา แม้ไม้กลอนก็เป็นอันไม่ได้รักษา
แม้ฝาเรือนก็เป็นอันไม่ได้รักษา แม้ยอดเรือนก็เป็นอันถูกฝนรั่วรด
แม้ไม้กลอนก็เป็นอันถูกฝนรั่วรด แม้ฝาเรือนก็เป็นอันถูกฝนรั่วรด
แม้ยอดเรือนก็เป็นของผุ แม้ไม้กลอนก็เป็นของผุ แม้ฝาเรือนก็เป็นของผุฉันใด
ดูกรคฤหบดี เมื่อบุคคลไม่รักษาจิตไว้ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ฯลฯ ความตายก็ไม่ดี การทำกาละก็ไม่งาม
ดูกรคฤหบดี เมื่อบุคคลรักษาจิตไว้ แม้กายกรรมก็เป็นอันรักษา แม้วจีกรรมก็เป็น อันรักษา แม้มโนกรรมก็เป็นอันรักษา
เมื่อเขารักษากายกรรม รักษาวจีกรรม รักษา มโนกรรม แม้กายกรรมก็เป็นอันไม่ชุ่ม แม้วจีกรรมก็เป็นอันไม่ชุ่ม แม้มโนกรรมก็เป็น อันไม่ชุ่ม
เมื่อเขามีกายกรรมไม่ชุ่ม มีวจีกรรมไม่ชุ่ม มีมโนกรรมไม่ชุ่ม แม้กายกรรม ก็เป็นอันไม่เสีย แม้วจีกรรมก็เป็นอันไม่เสีย แม้มโนกรรมก็เป็นอันไม่เสีย
เมื่อเขามี กายกรรม ไม่เสีย มีวจีกรรมไม่เสีย มีมโนกรรมไม่เสีย ความตายก็ดี การทำกาละ ก็งาม
ดูกรคฤหบดี เปรียบเหมือนเมื่อเรือนซึ่งมุงไว้เรียบร้อย แม้ยอดเรือนก็เป็น อัน รักษา แม้ไม้กลอนก็เป็นอันรักษา แม้ฝาเรือนก็เป็นอันรักษา แม้ยอดเรือนก็ไม่ถูกฝน รั่วรด แม้ไม้กลอนก็ไม่ถูกฝนรั่วรด แม้ฝาเรือนก็ไม่ถูกฝนรั่วรด แม้ยอดเรือนก็เป็นของ ไม่ผุ แม้ไม้กลอนก็เป็นของไม่ผุ แม้ฝาเรือนก็เป็นของไม่ผุ ฉันใด
ดูกรคฤหบดี เมื่อบุคคลรักษาจิตไว้ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ฯลฯ ความตายก็ดี การทำกาละก็งาม ฯ
กูฏสูตรที่ ๒
[๕๕๐] ครั้งนั้นแล อนาถบิณฑิกคฤหบดีได้เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึงที่ ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งครั้นแล้ว พระผู้มี พระภาคได้ตรัสกะเขาว่า
ดูกรคฤหบดี เมื่อจิตถึงความพินาศแล้ว แม้กายกรรมก็ถึงความพินาศ แม้วจีกรรม ก็ถึง ความพินาศ แม้มโนกรรมก็ถึงความพินาศ เมื่อเขามีกายกรรมถึงความพินาศ มีวจีกรรมถึงความพินาศมีมโนกรรมถึงความพินาศ ความตายก็ไม่ดี การทำกาละ ก็ไม่งาม ดูกรคฤหบดีเปรียบเหมือนเมื่อเรือน ที่มุงไว้ ไม่ดี แม้ยอดเรือนก็ถึง ความพินาศ แม้ไม้ กลอนก็ถึงความพินาศ แม้ฝาเรือนก็ถึง ความพินาศ ฉันใด
ดูกรคฤหบดี เมื่อจิตถึง ความพินาศ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ฯลฯ ความตายก็ไม่ดี การทำกาละก็ไม่งาม
ดูกรคฤหบดี เมื่อจิตไม่ถึงความพินาศ แม้กายกรรมก็ไม่ถึงความพินาศ แม้ วจีกรรม ก็ไม่ถึงความพินาศ แม้มโนกรรมก็ไม่ถึงความพินาศ เมื่อเขามีกายกรรม ไม่ถึงความ พินาศ มีวจีกรรมไม่ถึงความพินาศ มีมโนกรรมไม่ถึงความพินาศ ความตายก็ดี การทำกาละก็งาม ดูกรคฤหบดี เปรียบเหมือนเมื่อเรือนที่มุงไว้ดี แม้ยอดเรือนก็ไม่ถึงความพินาศ แม้กลอนก็ไม่ถึงความพินาศ แม้ฝาเรือนก็ไม่ถึง ความพินาศ ฉันใด
ดูกรคฤหบดี เมื่อจิตไม่ถึงความพินาศ ก็ฉันนั้นเหมือนกันฯลฯ ความตายก็ดี การทำกาละก็งาม ฯ |