(โดยย่อ)
1.ศึกษาเล่าเรียนสุตตะ ฟังธรรมเนือง ๆ จนคล่องปากขึ้นใจ แทงตลอด
-มีสติหลงลืมเมื่อทำกาละ บทแห่งธรรมย่อมปรากฎ
-ย่อมเข้าถึงเทพเทวดาหมู่ใดหมู่หนึ่ง และจะบรรลุธรรมในภพนั้น
2.ศึกษาเล่าเรียนสุตตะ ฟังธรรมเนือง ๆ จนคล่องปากขึ้นใจ แทงตลอด
-มีสติหลงลืมเมื่อทำกาละ และบทแห่งธรรม ไม่ปรากฎ
-แต่มีภิกษุผู้มีฤทธิ์ แสดงธรรมแก่เทพเทวดา
-ย่อมระลึกบทแห่งธรรมที่เคยประพฤติมาในอดีต จะบรรลุธรรมในภพนั้น
3..ศึกษาเล่าเรียนสุตตะ ฟังธรรมเนือง ๆ จนคล่องปากขึ้นใจ แทงตลอด
-มีสติหลงลืมเมื่อทำกาละ และบทแห่งธรรม ไม่ปรากฎ
-ภิกษุผู้มีฤทธิ์ ก็ไม่แสดงแสดงธรรมแก่เทพเทวดา
-แต่เทพเทวดา(ในภพนั้น)ได้แสดงธรรม แก่เทพเทวดาด้วยกัน
-ย่อมระลึกบทแห่งธรรมที่เคยประพฤติมาในอดีต จะบรรลุธรรมในภพนั้น
3..ศึกษาเล่าเรียนสุตตะ ฟังธรรมเนือง ๆ จนคล่องปากขึ้นใจ แทงตลอด
-มีสติหลงลืมเมื่อทำกาละ และบทแห่งธรรม ไม่ปรากฎ
-ภิกษุผู้มีฤทธิ์ ก็ไม่แสดงแสดงธรรมแก่เทพเทวดา
-เทพเทวดา ก็ไม่ได้แสดงธรรม แก่เทพเทวดาด้วยกัน
-แต่เทพเทวดาที่เกิดก่อน เตือนเทพเทวดาที่เกิดทีหลัง
-ย่อมระลึกบทแห่งธรรมที่เคยประพฤติมาในอดีต จะบรรลุธรรมในภพนั้น
(สรุป)
1 ระลึกบทแห่งธรรมเมื่อทำกาละ จากการศึกษา จากการฟัง จนคล่องปาก - ย่อมบรรลุธรรมในภพนั้น
2.ภิกษุมีฤทธิ์ขึ้นไปแสดงธรรมแก่เทวดา ทำให้ระลึกถึงบทธรรมในอดีต - ย่อมบรรลุธรรมในภพนั้น
3.เทวดาในภพนั้น แสดงธรรมแก่เทวดาด้วยกัน ทำให้ระลึกถึงบทธรรมในอดีต - ย่อมบรรลุธรรม
4.เทวดาที่เกิดก่อน เตือนเทวดาที่เกิดทีหลัง ทำให้ระลึกถึงบทธรรมในอดีต - ย่อมบรรลุธรรม
|