เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่ พุทธวจน คำสอนของพระศาสดา คำสอนตถาคต รวมพระสูตรสำคัญ อนาคามี เว็บไซต์เผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้า
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 
 สูญญตา วิหารธรรมที่ทรงอยู่มากที่สุด... แม้กำลังแสดงธรรมกถา จิตก็ยังน้อมไปในวิเวก 1078
 
 
อานนท์ !  ในกาลบัดนี้ เราตถาคตย่อมอยู่ด้วย "สุญญตาวิหาร" เป็นส่วนมาก
วิหารธรรมที่ทรงอยู่มากที่สุด ด้วยจิตที่เคยชินต่อเรื่องนั้น โดยที่จิตไม่ต้องหยุดจากการดื่มรสของ สุญญตาวิหาร แม้ในขั้นที่เป็น ปรมานุตตรสุญญตา

ทรงอยู่ด้วยสุญญตาวิหาร แม้ขณะกำลังแสดงธรรม(ธรรมกถา)
อานนท์ ! ในขณะนั้นที่ตถาคตอยู่ด้วยวิหารธรรมนี้ ถ้ามีผู้เข้ามาหา เป็นภิกษุบ้าง เดียรถีย์บ้าง... ฯลฯ ตถาคตก็คงมีจิตน้อมอยู่ในวิเวก เป็นจิตหลีกออกจากโลกิยธรรม ยินดียิ่งแล้วใน เนกขัมมะ เกลี้ยงเกลาแล้วจาก อาสวัฏฐานิยธรรม โดยประการทั้งปวง กระทำซึ่งกถา(กล่าวธรรม) อันเนื่อง เฉพาะด้วยการ ชี้ชวนในการออก (จากทุกข์) โดยส่วนเดียวเท่านั้น. เพราะเหตุนั้น ในกรณีนี้ ถ้ามี ภิกษุปรารถนาว่า เราพึงเข้าถึง สุญญตาวิหาร อันเป็นภายในแล้วแลอยู่ ดังนี้ไซร้
   เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
   การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
   การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
   แสวงหาสัจจะ บำเพ็ญทุกรกิริยา
   ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
   ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
   ปลงสังขาร ปรินิพพาน
   ลำดับขั้นการปรินิพพาน
   เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
   แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 


พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ ภาค ๔ เรื่องเบ็ดเตล็ดใหญ่น้อยต่าง ๆ
ตั้งแต่โปรดปัญจวัคคีย์แล้ว  ไปจนถึงจวนจะปรินิพพาน หน้าที่ ๓๗๕


วิหารธรรมที่ทรงอยู่มากที่สุด ตลอดพระชนม์

(๑.  บาลี จูฬสุญญตสูตร อุปริ. ม. ๑๔/๒๒๖/๓๓๔. ตรัสแก่พระอานนท์ ที่บุพพาราม มิคารมาตุปราสาท)

        พระอานนท์  ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า  “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !  สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในแคว้นสักกะ ที่ศากยนิคมชื่อนครกะ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ณ ที่นั้น ข้าพระองค์ได้ฟังมาได้จำมาแต่ ที่เฉพาะพระพักตร์ ของพระผู้มีพระภาคว่า

อานนท์ !  ในกาลบัดนี้ เราตถาคตย่อมอยู่ด้วยสุญญตาวิหารเป็นส่วนมาก ดังนี้.

        ข้าแต่พระองค์ ผู้เจริญ ! ข้อนี้เป็นอันว่า ข้าพระองค์ได้ฟังมาดี ได้รับมาดี ได้ทำในใจไว้ดี ได้ทรงจำไว้ดีแลหรือ พระเจ้าข้า !”

       อานนท์ !  ถูกแล้ว ข้อนั้นเป็นอันว่าเธอได้ฟังแล้วดี ได้รับแล้วดี ได้ทำในใจไว้ แล้วดี ได้ทรงจำไว้แล้วดีแล้ว.

       อานนท์ !  ทั้งในกาลก่อนและในกาล นี้  เราตถาคตย่อมอยู่ด้วย สุญญตาวิหาร เป็นส่วนมาก.

(ต่อจากนี้ ได้ตรัสถึงสิ่งที่เรียกว่าสุญญตาวิหารพร้อมทั้งอุปมาเป็นลำดับไป ตั้งต้นแต่ คามสัญญา - มนุสสสัญญา - อรัญญสัญญา - ปฐวีสัญญา - อากาสานัญจายตน สัญญา - วิญญาณัญจายตนสัญญา - อากิญจัญญายตนสัญญา - กระทั่งถึงเนวสัญญา นาสัญญายตนสัญญา ซึ่งยังมิใช่เป็นชั้นปรมานุตตรสุญญตา แล้วตรัสถึง อนิมิตต เจโตสมาธิ และการรู้ซึ่งโทษแห่งความเป็นสังขตธรรม ของสมาธินั้น มีจิตพ้นจาก อาสวะ ทั้ง ๓ ไม่มีความกระวนกระวาย (ทรถา) เพราะอาศัยอาสวะทั้ง ๓ นั้นมีแต่ สักว่า ความกระวนกระวาย (ทรถมตฺตา) อันเกิดจากการมีชีวิตอยู่ตาม ธรรมชาติบ้าง และตรัสเรียกวิหารธรรมนี้ว่า ปรมานุตตรสุญญตา และทรงยืนยันว่า มีหลักอย่างนี้ ทั้งใน กาลอดีต อนาคต ปัจจุบัน และทรงชักชวนให้ศึกษาการเข้าอยู่ด้วย ปรมานุตตรสุญญตา)

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ ภาค หน้าที่ ๓๗๕

ทรงอยู่ด้วยสุญญตาวิหาร แม้ใจขณะแห่งธรรมกถา
(๑.  บาลี จูฬสุญญตสูตร อุปริ. ม. ๑๔/๒๒๖/๓๓๔. ตรัสแก่พระอานนท์ ที่บุพพาราม มิคารมาตุปราสาท)

        อานนท์ !  ก็วิหารธรรมนี้แล เราตถาคตได้รู้พร้อมเฉพาะ (ตรัสรู้) แล้วในที่เป็น ที่ตรัสรู้นั้น นั่นคือตถาคตเข้าถึงแล้วแลอยู่ซึ่ง สุญญตาวิหาร อันเป็นภายใน เพราะไม่ กระทำในใจซึ่งนิมิต (ภายนอก) ทั้งปวง.

        อานนท์ !  ในขณะนั้นที่ตถาคตอยู่ด้วยวิหารธรรมนี้ ถ้ามีผู้เข้ามาหา เป็น ภิกษุบ้าง ภิกษุณีบ้าง อุบาสกบ้าง อุบาสิกาบ้าง ราชาบ้าง ราชอำมาตย์บ้าง เดียรถีย์บ้าง สาวกเดียรถีย์บ้าง

        อานนท์ !  ในกรณีนั้น ตถาคตมีจิตที่ยังคงน้อมอยู่ในวิเวก โน้มอยู่ในวิเวก แนบแน่นอยู่ในวิเวก อยู่นั่นเอง เป็นจิตหลีกออกจากโลกิยธรรม ยินดียิ่งแล้วใน เนกขัมมะ เกลี้ยงเกลาแล้วจาก อาสวัฏฐานิยธรรม โดยประการทั้งปวง กระทำซึ่งกถา อันเนื่องเฉพาะด้วยการชี้ชวนในการออก (จากทุกข์) โดยส่วนเดียวเท่านั้น.

        อานนท์ !  เพราะเหตุนั้น ในกรณีนี้ ถ้ามีภิกษุปรารถนาว่า เราพึงเข้าถึง สุญญตาวิหาร อันเป็นภายในแล้วแลอยู่ ดังนี้ไซร้

       อานนท์ !  ภิกษุนั้นพึงกระทำจิตในภายในนั่นแหละ ให้เป็นจิตตั้งอยู่อย่าง สม่ำเสมอ ให้เป็นจิตหยุดพัก ให้เป็นจิตมีอารมณ์เดียว ให้เป็นจิตตั้งมั่น.        

หมายเหตุ : ขอให้สังเกตให้เห็นว่า แม้เมื่อจิตอยู่ด้วยสุญญตาวิหาร คือไม่กำหนด นิมิตหรืออารมณ์ภายนอกทั้งปวง จิตรู้สึกอยู่ในรสของพระนิพพาน โดยไม่ต้องสูญเสีย ความรู้สึกเช่นนั้นไปจากจิต ปากก็ยังพูดเรื่องราวที่เคยพูดมาจนชินได้ โดยเฉพาะใน กรณีนี้ คือเรื่องแห่งความดับทุกข์ ซึ่งเป็นเรื่องที่แจ่มแจ้งและเคยชินสำหรับพระองค์ อย่างถึงที่สุดนั่นเอง ปากจึงทำการพูดออกไปได้ ด้วยจิตใต้สำนึกที่เคยชินต่อเรื่องนั้น โดยที่จิตไม่ต้อง หยุดจากการดื่มรสของสุญญตาวิหาร แม้ในขั้นที่เป็น ปรมานุตตรสุญญตา (ซึ่งมีอธิบาย อยู่ที่หน้า ๓๗๖ บรรทัดที่ ๓ ไป (จากบรรทัดเลข หน้า) แห่งหนังสือเล่มนี้) ของพระองค์  ราวกะว่ามีจิตสองจิตหรือ สองชั้นทำงาน ร่วมกัน. จะยุกติเป็นอย่างไร ขอฝากท่าน ผู้คงแก่การปฏิบัติธรรม วินิจฉัยดูด้วยตนเอง เถิด. - ผู้รวบรวม.

 
พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90  
 
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์
อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
 
   
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน อานา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์