พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๑ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๗๑-๗๒
สมชีวิสูตรที่ ๑
[๕๕] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ เภสกฬามฤคทายวัน ใกล้บ้าน สุงสุมารคีระ แคว้นภัคคะ ครั้งนั้นแล เวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตรและจีวรเสด็จเข้าไปยังนิเวศน์ ของนกุลบิดาคฤหบดี แล้วประทับนั่งบน อาสนะที่ปูลาดไว้ ครั้งนั้นแล คฤหบดีผู้นกุลบิดา และคฤหปตานี ผู้ นกุลมารดา เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้ว คฤหบดีผู้นกุลบิดาได้กราบทูลกะพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ ผู้เจริญ นับแต่เวลาที่ตระกูล นำคฤหปตานีผู้นกุลมารดา ซึ่งยังเป็นสาวมา เพื่อ ข้าพระองค์ผู้ยังเป็นหนุ่มข้าพระองค์ มิได้รู้สึกจะประพฤตินอกใจคฤหปตานี ผู้ นกุลมารดา แม้ด้วยใจเลย ที่ไหนจะประพฤตินอกใจด้วยกายเล่า ข้าพระองค์ทั้งสอง ปรารถนาพบกัน และกันทั้งในปัจจุบันทั้งในสัมปรายภพ แม้คฤหปตานีผู้นกุลมารดา ก็ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นับแต่เวลาที่ตระกูล นำหม่อมฉันซึ่งยังเป็นสาวมา เพื่อคฤหบดีผู้นกุลบิดาซึ่งยังเป็นหนุ่ม หม่อมฉัน มิได้ รู้สึกจะประพฤตินอกใจคฤหบดี ผู้นกุลบิดา แม้ด้วยใจเลย ที่ไหนจะประพฤตินอกใจ ด้วยกายเล่า หม่อมฉันทั้งสองปรารถนาพบกัน และกันทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรคฤหบดี และคฤหปตานี ถ้าภรรยาและสามีทั้งสอง หวังจะพบกันและกัน ทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพไซร้ ทั้งสองเทียวพึงเป็นผู้ มีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน ภรรยา และสามี ทั้งสองนั้น ย่อมได้พบกันและกันทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ
ภรรยาและสามีทั้งสองเป็นผู้มีศรัทธา รู้ความประสงค์ของผู้ขอ มีความสำรวม เป็นอยู่โดยธรรม เจรจาคำที่น่ารักแก่กันและกัน ย่อมมีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีความ ผาสุกทั้งสองฝ่ายมีศีลเสมอกัน รักใคร่กันมาก ไม่มีใจร้ายต่อกัน ประพฤติธรรม ในโลกนี้แล้ว ทั้งสองเป็นผู้มีศีลและวัตรเสมอกัน ย่อมเป็นผู้เสวยกามารมณ์ เพลิดเพลิน บันเทิงใจ อยู่ในเทวโลก
จบสูตรที่ ๕
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๑ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๗๒
สมชีวิสูตรที่ ๒
[๕๖] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภรรยาและสามีทั้งสอง พึงหวังพบกันและกัน ทั้งในปัจจุบัน และในสัมปรายภพ ทั้งสองเทียวพึงเป็นผู้มี ศรัทธา เสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน ภรรยา และสามี ทั้งสองนั้น ย่อมได้พบกันและกันทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ
ภรรยาและสามีทั้งสองเป็นผู้มีศรัทธา รู้ความประสงค์ของผู้ขอ มีความสำรวม เป็นอยู่ โดยธรรม เจรจาคำที่น่ารักแก่ กันและกัน ย่อมมีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีความ ผาสุก ทั้งสองฝ่ายมีศีลเสมอกัน รักใคร่กันมาก ไม่มีใจร้ายต่อกัน ประพฤติธรรมในโลก นี้แล้ว ทั้งสองเป็นผู้มีศีลและวัตรเสมอกัน ย่อมเป็นผู้เสวยกามารมณ์ เพลิดเพลิน บันเทิงใจ อยู่ในเทวโลก |