พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๐ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๗๙
มหาปรินิพพานสูตร

ทรงพยากรณ์ คติและภพเบื้องหน้า ของ ภิกษุ ภิกษุณี อุบากสก อุบาสิกา ผู้ทำกาละไปแล้ว (จำนวน ๖๖๘ คน)


         [๘๙] ...ดูกรอานนท์ มาไปกันเถิด เราจักไป ยังนาทิกคาม... ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาค พร้อมด้วย ภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ เสด็จถึง นาทิกคาม แล้ว ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาค ประทับในที่พัก ซึ่งก่อด้วยอิฐที่นาทิกคาม นั้น  ท่าน พระอานนท์ เข้าไป เฝ้าพระผู้มี พระภาคถึงที่ประทับ ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้ว ถวายบังคม พระผู้มีพระภาค นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง

ครั้นท่านพระอานนท์นั่งเรียบร้อยแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ ผู้เจริญ ภิกษุนามว่า สาฬหะ มรณภาพแล้วในนาทิกคาม คติและภพเบื้องหน้า ของเธอ เป็นไฉน

ภิกษุณีนามว่า นันทา มรณภาพแล้วใน นาทิกคาม คติและภพเบื้องหน้าของเธอ เป็นไฉน อุบาสกนามว่า สุทัตตะ ... อุบาสิกา   นามว่า สุชาดา ... อุบาสกนามว่า กกุธะ ... อุบาสกนามว่า การฬิมพะ ... อุบาสก   นามว่า นิกฏะ ... อุบาสกนามว่า กฏิสสหะ ... อุบาสกนามว่า ตุฏฐะ ... อุบาสก   นามว่า สันตุฏฐะ ... อุบาสกนามว่า ภฏะ ... อุบาสกนามว่า สุภฏะ ทำกาละ   แล้วในนาทิกคาม คติและภพเบื้องหน้า ของเขา เป็นไฉน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

(ภิกษุ สาฬหะ สำเร็จอรหันต์)
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรอานนท์ ภิกษุนามว่า สาฬหะ กระทำให้แจ้งซึ่ง เจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ (สำเร็จอรหันต์) เพราะอาสวะสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่ง ของตนเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

(ภิกษุณี นันทา สังโยชน์ ๕ สิ้น)
ภิกษุณีนามว่า นันทา เพราะสังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ สิ้นไปเป็น โอปปาติกะ ปรินิพพานในภพนั้น มีอันไม่กลับมาจากโลกนั้นเป็น ธรรมดา
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อุบาสก ๑ คน สังโยชน์ ๓ สิ้น ราคะ โทสะ โมหะ เบาบาง
อุบาสกนามว่า สุทัตตะ เพราะสังโยชน์ ๓ สิ้นไป และเพราะ ราคะ โทสะ โมหะ เบาบาง เป็นพระสกทาคามี กลับมายังโลก นี้คราวเดียวเท่านั้น แล้วจักทำที่สุด แห่งทุกข์
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อุบาสิกา ๑ คน สังโยชน์ ๓ สิ้น
อุบาสิกานามว่า สุชาดา เพราะสังโยชน์ ๓ สิ้นไปเป็น พระโสดาบัน มีอันไม่ตกต่ำ เป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยง มีอันจะตรัสรู้ในภายหน้า 
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

(อุบาสก ๘ คน สังโยชน์ ๕ สิ้น)
อุบาสกนามว่า กกุธะ เพราะสังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ สิ้นไป เป็นโอปปาติกะ ปรินิพพาน  ในภพนั้น มีอันไม่กลับมาจากโลกนั้นเป็นธรรมดา
อุบาสกนามว่า การฬิมพะ ... อุบาสกนามว่า นิกฏะ ... อุบาสกนามว่า กฏิสสหะ ... อุบาสกนามว่า ตุฏฐะ ...อุบาสกนามว่า สันตุฏฐะ ... อุบาสกนามว่า ภฏะ ... อุบาสกนามว่า สุภฏะ เพราะ สังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ สิ้นไป เป็นโอปปาติกะ ปรินิพพาน ในภพนั้น มีอันไม่กลับมาจากโลกนั้นเป็นธรรมดา ฯ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อุบาสก ๕๐ คน ไม่ระบุชื่อ สังโยชน์ ๕ สิ้น
ดูกรอานนท์ พวกอุบาสกในนาทิกคาม อีก ๕๐ คน กระทำกาละแล้ว  เพราะสังโยชน์ เบื้องต่ำ ๕ สิ้นไป เป็นโอปปาติกะ ปรินิพพานในภพนั้น มีอันไม่ กลับมาจากโลกนั้น เป็นธรรมดา
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อุบาสก ๙๖ คน ไม่ระบุชื่อ สังโยชน์ ๓ สิ้น ราคะโทสะโมหะ เบาบาง
พวกอุบาสกในนาทิกคาม ๙๖ คน ทำกาละแล้ว เพราะสังโยชน์ ๓ สิ้นไป และ เพราะ ราคะโทสะ โมหะเบาบาง เป็นพระสกทาคามี กลับมายังโลกนี้คราวเดียว เท่านั้น แล้ว จักทำที่สุดแห่งทุกข์
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อุบาสก ๕๑๐ คน ไม่ระบุชื่อ สังโยชน์ ๓ สิ้น
พวกอุบาสกในนาทิกคาม ๕๑๐ คน ทำกาละแล้ว เพราะสังโยชน์ ๓ สิ้นไปเป็น พระโสดาบัน มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยง มีอันจะตรัสรู้ในภายหน้า ฯ