เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 
  สาเลยยกสูตร เหตุที่ทำให้สัตว์ทั้งหลายเข้าถึงเทวดา หรือนรก 882
 
(เนื้อหาพอสังเขป)


"ท่านโคดมผู้เจริญ... ขอถามสักหน่อยเถิดว่า 
อะไรล่ะ เป็นเหตุ? อะไรเป็นปัจจัย ซึ่งเหล่าสัตว์บางพวก ในโลกนี้  หลังจากตายเพราะกายแตกย่อม
เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาตนรก
และก็อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ เหล่าสัตว์ บางพวกหลังจากตายเพราะกายแตก
ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์

เหตุปัจจัย
การประพฤติกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ทุจริต ย่อมเข้าถึง
อบาย ทุคติ วินิบาตนรก
การประพฤติกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม สุจริต ย่อมเข้าถึง
สุคติโลกสวรรค์
 
 


ฉบับมหามกุฏฯ เล่มที่ ๑๙ สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่มที่ ๑ ภาคที่ ๒ (ต่อ) หน้าที่ ๒๔๕


       
๑.  สาเลยยกสูตร

         [๔๘๓]  ข้าพเจ้าได้ฟังมาแล้วอย่างนี้.

         สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงเที่ยวจาริกไปในแคว้นโกศล พร้อมกับ หมู่ภิกษุ จำนวนมาก มาประทับอยู่ที่หมู่บ้านพราหมณ์แห่งแคว้นโกศล ชื่อสาละ  พวกพราหมณ์ และ คฤหบดีชาวสาละได้ฟังข่าวว่า นี่แน่ เขาว่าพระสมณโคดมผู้เจริญ โอรสเจ้าศากยะ บวชจากตระกูล ศากยะกำลังท่องเที่ยว อยู่ในแคว้นโกศล  ได้มาถึง หมู่บ้านสาละ พร้อมกับ หมู่ภิกษุจำนวนมาก ก็แลเกียรติ-ศัพท์อันงามได้ขจร ขึ้นไปยัง พระโคดมผู้เจริญ นั้น อย่างนี้ว่า แม้เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงเป็น พระอรหันต์ตรัสรู้ถูกต้อง ด้วยพระองค์เอง สมบูรณ์ด้วยความรู้ และความประพฤติ เป็นผู้ไปดีแล้ว รู้จักโลก เป็นผู้ ฝึกคน ที่พอจะฝึกได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นผู้สอน พวกเทวดา และมนุษย์เป็นพุทธะ เป็นผู้ จำแนกธรรม พระโคดมนั้นได้กระทำให้แจ้ง โลกนี้ รวมทั้งเทวโลก มารโลก  พรหมโลก หมู่คนรวมทั้งสมณะ และพราหมณ์ รวมทั้งเทวดา และมนุษย์ด้วยความรู้ ยิ่งเอง แล้วชี้แจง.


ท่านแสดงธรรมงามในเบื้องต้นงามในท่ามกลาง งามในที่สุดพร้อมทั้งใจความ  พร้อมทั้ง พยัญชนะ  ประกาศพรหมจรรย์ที่บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง.  ก็แหละการเห็น หมู่พระอรหันต์ เห็นปานนั้นย่อมเป็นการดีแท้.

         ครั้นนั้นแล พวกพราหมณ์และคฤหบดีชาวสาละ ก็พากันเข้าไปเฝ้าพระผู้มี พระภาคเจ้า ถึงที่ประทับ แล้วบางพวกก็ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนั่ง ณ ที่ควร ส่วนข้างหนึ่ง บางพวกก็บันเทิงกับพระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อพูดจาปราศรัยกัน พอเป็น ที่ระลึก นึกถึงกันเสร็จแล้ว ก็นั่งลงในที่ควร ส่วนข้างหนึ่ง บางพวกก็ประณม อัญชลี หันไปหาพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วนั่งลงในที่ควรส่วนข้างหนึ่ง  บางพวกก็บอก ชื่อ และ นามสกุล ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วนั่งลงในที่ควร ส่วนข้างหนึ่ง บางพวกไม่พูดว่า อะไร แล้วนั่งในที่ควรส่วนข้างหนึ่ง เมื่อนั่งเรียบร้อยแล้ว พวกพราหมณ์ และ คฤหบดีชาว สาละก็ทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างนี้ว่า 

"ท่านโคดมผู้เจริญ... ขอถามสักหน่อยเถิดว่า อะไรล่ะ เป็นเหตุ? อะไรเป็นปัจจัย ซึ่งเหล่าสัตว์บางพวกในโลกนี้ หลังจากตายเพราะกายแตกย่อม เข้าถึงอบาย ทุคติ  วินิบาตนรก ?  พระโคดมผู้เจริญ และก็อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ เหล่าสัตว์ บางพวกหลังจากตายเพราะกายแตก  ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ?

         ภ.  พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย 
         เพราะความไม่ประพฤติธรรม และ ความประพฤติไม่สม่ำเสมอ เป็นเหตุ โดยแท้ เหล่าสัตว์บางพวกในโลกนี้ หลังจากตายเพราะกายแตก ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรกอย่างนี้ พราหมณ์และคฤหบดี ทั้งหลาย 

         เพราะความประพฤติธรรม และ ความประพฤติเรียบร้อย เป็นเหตุโดยแท้ ที่ทำให้หมู่สัตว์ บางพวกในโลกนี้ เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ หลังจากตายเพราะ กายแตก อย่างนี้.

         พ.  "พวกข้าพเจ้ายังไม่เข้าใจ ใจความของคำพูดที่ท่านพระโคดม กล่าวโดยย่อนี้ อย่างพิสดารได้ และคำพูดที่ท่านยังไม่แจกแจง ก็เข้าใจใจความ อย่างพิสดารโดยทั่วถึง ยังไม่ได้ พวกข้าพเจ้าขอโอกาสให้พระโคดม ผู้เจริญแสดงธรรม โดยประการที่พวก ข้าพเจ้าจะพึงเข้าใจ ใจความของคำพูดที่ท่าน พระโคดม กล่าวโดยย่อนี้อย่างพิสดารได้ ละคำพูดที่ท่านยังไม่แจกแจง ก็เข้าใจใจความอย่างพิสดารโดยทั่วถึงได้."

        ภ.  "พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ถ้าอย่างนั้นจงตั้งใจฟังให้ดีฉันจะกล่าว."
        พ.  "อย่างนั้นท่าน." พวกพราหมณ์และคฤหบดีชาวบ้านสาละ รับสนองพระ ดำรัสของพระผู้มีพระภาคเจ้า.

...............................................................................................................................................

(ผู้ไม่ประพฤติในธรรม)
ทางกาย

         [๔๘๔] พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงได้ตรัสอย่างนี้ว่า พราหมณ์และ คฤหบดี ทั้งหลาย
ความประพฤติไม่เป็นธรรม และความประพฤติไม่สม่ำเสมอ ทางกายมี ๓ อย่าง  ความประพฤติไม่เป็นธรรม และความประพฤติไม่สม่ำเสมอ ทางวาจามี ๔ อย่าง ความประพฤติไม่เป็นธรรม และความประพฤติไม่สม่ำเสมอ ทางใจมี ๓ อย่าง

         "พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ความประพฤติไม่เป็นธรรม และ
ความประพฤติ ไม่สม่ำเสมอ ทางกาย ๓ อย่าง อย่างไรเล่า? คือ


๑.  พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย คนบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ชอบฆ่าสัตว์ เป็นคนหยาบ มือเปื้อนเลือด ตั้งมั่นในการเข่นฆ่า ไม่ละอาย ไม่สงสารในหมู่สัตว์ ทั้งปวง.

๒.  และก็เป็นผู้ ชอบลักขโมยของ สิ่งใดเป็นของคนอื่น เป็นอุปกรณ์เครื่องปลื้มใจ ของคนอื่น ไม่ว่าอยู่ในบ้านหรืออยู่ในป่า เป็นผู้ถือเอาของที่เขาไม่ได้ให้ อันเป็นส่วน แห่งขโมยนั้น.

๓.  อีกทั้งชอบประพฤติผิดในของรักของใคร่ทั้งหลาย เป็นผู้ละเมิดจารีต ในผู้หญิง ที่ไม่รักษา พ่อรักษา ทั้งแม่และพ่อรักษา พี่น้องชายรักษาพี่น้องหญิงรักษา ญาติรักษา หญิงมีผัว หญิงมีอาชญาโดยรอบ โดยที่สุดแม้แต่หญิงที่คล้อง พวงมาลังให้  (เสี่ยงพวงมาลัย) เห็นปานนี้.

         อย่างนี้แลพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย  จัดเป็นความประพฤติที่ไม่เป็นธรรม และ ความประพฤติที่ไม่สม่ำเสมอทางกาย ๓ อย่าง.

ทางกาย

         "พราหมณ์และ คฤหบดีทั้งหลาย ก็แหละ ความประพฤติที่ไม่เป็นธรรม และ ความประพฤติที่ไม่สม่ำเสมอ ทางวาจา  ๔  อย่าง เป็นอย่างไร? คือ

         ๑.  พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย  บุคคลลางคนในโลกนี้เป็นคนชอบพูดเท็จ ไม่ว่าอยู่ในที่ประชุม อยู่ในบริษัท อยู่กลางญาติ อยู่กลางพรรคพวก หรืออยู่กลาง ราชตระกูลก็ตาม เมื่อถูกนำมาซักเป็นพยานว่า ''มานี่ซินาย ขอให้คุณจงพูดสิ่ง ที่คุณรู้." เขาไม่รู้ก็พูดว่า "ผมรู้"  หรือรู้อยู่ก็กลับพูดว่า "ผมไม่รู้ " ไม่เห็นก็พูดว่า " ผมเห็น" หรือเห็นอยู่ก็ไพล่พูดไปว่า "ผมไม่เห็น" ทั้งนี้เพราะเหตุแห่งตน เพราะเหตุแห่ง คนอื่น หรือเพราะเหตุแห่งอามิสลางสิ่งลางอย่าง จึงเป็นกล่าวเท็จ ทั้งๆ ที่รู้อยู่.

         ๒.  และก็เป็นคนพูดส่อเสียด คือ ได้ฟังจากทางนี้แล้วไปบอกทางโน้น เพื่อทำลายพวกเหล่านี้  หรือได้ฟังจากทางโน้นแล้วก็มาบอกพวกนี้ เพื่อทำลาย พวกโน้น ดังนี้ก็เป็นอันว่า  ทำผู้ที่พร้อมเพรียงกันอยู่แล้วให้แตกกัน หรือส่งเสริมให้คน ที่แตกกันอยู่แล้วแตกกันยิ่งขึ้น พอใจผู้ที่แตกกันเป็นพรรคเป็นพวก  ยินดีกับที่แตกกัน เป็นพรรคเป็นพวก ชอบผู้ที่แตกกันเป็นพรรคเป็นพวก เป็นผู้พูดวาจาที่ทำให้แตกกัน เป็นพรรคเป็นพวก

         ๓.  ทั้งเป็นคนพูดคำหยาบ คือ เป็นผู้พูดคำชนิดที่ค่อนขอด หยาบช้า ต่อคนอื่น เผ็ดร้อน คนอื่นเหน็บความเจ็บใจ ใกล้ต่อความโกรธ ไม่เป็นไม่ เพื่อให้จิตใจ ตั้งมั่นเห็นปานนั้น.

         ๔.  อีกทั้งเป็นผู้ชอบพูดสำรากเพ้อเจ้อ ชอบพูดไม่ถูกเวลา ชอบพูดไม่จริง ( พูดไม่เป็น) ชอบพูดไร้ประโยชน์ ชอบพูดไม่เป็นธรรม ชอบพูดไม่เป็นวินัย เป็นผู้พูด ไม่มีหลักฐาน ไม่เป็นเวลา ไม่มีที่อ้างอิง ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ประกอบด้วยประโยชน์.

          อย่างนี้แล  พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย จัดเป็นความประพฤติ ที่ไม่เป็นธรรม และความประพฤติที่ไม่สม่ำเสมอทางวาจา ๔ อย่าง.

ทางใจ

     " พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ก็แหละ ความประพฤติที่ไม่เป็นธรรม และ ความประพฤติที่ไม่สม่ำเสมอ ทางใจ ๓ อย่าง เป็นอย่างไร คือ

         ๑.  พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย คนลางคนในโลกนี้ เป็นผู้มากไปด้วย ความเพ่งเล็ง เป็นผู้เพ่งเล็งทรัพย์สมบัติของคนอื่น ไฉนหนอ ขอสิ่งที่เป็นของคนอื่น นั้น พึงเป็นของเราเถิด.

         ๒.  และก็เป็นผู้มีจิตพยาบาท เป็นผู้มีใจคิดแต่จะประทุษร้ายว่า " ขอให้สัตว์พวกนี้ จงถูกฆ่า จงถูกเขาฆ่า จงขาดสูญ หรืออย่าได้มีเลย."

         ๓.  อีกทั้งเป็นผู้มีความเห็นผิด เป็นผู้มีความเห็นคลาดเคลื่อน ว่า  "ทานที่ให้แล้ว ไม่มีผล การบูชาไม่มีผล การเซ่นสรวงไม่มีผล ผลคือวิบากของกรรม ที่ทำดีและชั่วไม่มี โลกนี้ไม่มี โลกหน้าไม่มี มารดาไม่มีบุญคุณ บิดาไม่มีบุญคุณ พวกสัตว์ที่ผุดเกิดไม่มี ในโลกไม่มีสมณพราหมณ์ ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ ชนิดที่ทำให้แจ้งด้วยความรู้ยิ่งเอง แล้วประกาศโลกนี้และโลกหน้า "

         อย่างที่ว่ามานี่แหละ พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย จัดเป็นความประพฤติ ที่ไม่เป็นธรรมแ ละความประพฤติที่ไม่สม่ำเสมอทางใจ ๓ อย่าง.

         " พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย เพราะความประพฤติไม่เป็นธรรม และความประพฤติที่ไม่สม่ำเสมอ เป็นเหตุอย่างนี้แล เหล่าสัตว์บางพวกในโลกนี้   เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก จึงย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก."

.................................................................................................................................................................

(ผู้ประพฤติในธรรม)
ทางกาย

          [๔๘๕] " พราหมณ์และคฤหบดีทั่งหลาย  ความประพฤติเป็นธรรม และความประพฤติสม่ำเสมอทางกายมี ๓ อย่างแล. ความประพฤติเป็นธรรม และความประพฤติสม่ำเสมอทางวาจามี ๔ อย่าง. ความประพฤติเป็นธรรม และความประพฤติสม่ำเสมอทางใจมี ๓ อย่าง

         " พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย  ก็แลความประพฤติเป็นธรรม และ ความประพฤติสม่ำเสมอ ทางกาย ๓ อย่าง เป็นอย่างไร คือ

         ๑.  พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย บุคคลลางคนในโลกนี้ ละการฆ่าสัตว์  เป็นผู้เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ วางกระบองลง วางศัสตราลง มีความละอาย ประกอบด้วยความเอ็นดู เป็นผู้มีความเอื้อเฟื้อและความสงสารในสัตว์ทั้งหมดอยู่.

         ๒.  ละการลักทรัพย์ เป็นผู้เว้นขาดจากการลักทรัพย์ เป็นผู้ไม่ถือเอา ทรัพย์สมบัติของคนอื่น จะอยู่ในบ้านหรืออยู่ในป่า ซึ่งเขาไม่ได้ให้ อันเป็นส่วน แห่งการขโมยนั้น.

         ๓.  ละความประพฤติผิดในกามทั้งหลาย เป็นผู้เว้นขาดจาก ความประพฤติผิด ในกาม ทั้งหลาย ไม่ละเมิดจารีตในผู้หญิงที่แม่ปกครอง พ่อปกครอง ทั้งพ่อและแม่ ปกครอง  พี่น้องชายปกครอง พี่น้องหญิงปกครอง หญิงมีผัวหญิงที่อยู่ในเขตหวงห้าม โดยที่สุด แม้แต่หญิงที่ชายคล้องพวงมาลัยให้ เห็นปานนั้น.

         อย่างนี้แล พราหมณ์เละคฤหบดีทั้งหลาย จัดเป็นความประพฤติเป็นธรรม และ ความประพฤติสม่ำเสมอทางกาย ๓ อย่าง.

ทางวาจา

         " พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ความประพฤติเป็นธรรม และความประพฤติ สม่ำเสมอทางวาจา ๔ อย่าง เป็นอย่างไร ?

          ๑.  พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย บุคคลลางคนในโลกนี้ ละการกล่าวเท็จ เป็นผู้เว้นขาดจากการกล่าวเท็จไม่ว่าอยู่ในที่ประชุม อยู่ในบริษัท อยู่กลางญาติ  อยู่กลางพรรคพวกหรืออยู่กลางราชตระกูลก็ตาม เมื่อถูกนำมาซักเป็นพยานว่า   "มานี่ซินายขอให้คุณจงพูดไปตามที่คุณรู้" เขาไม่รู้ ก็พูดว่า" ผมไม่รู้ " หรือรู้อยู่  ก็พูดว่า"ผมรู้ " ไม่เห็นก็พูดว่า "ผมไม่เห็น" หรือ เห็นอยู่ก็พูดว่า "ผมเห็น "  ทั้งนี้ไม่ว่าเพราะตนเป็นเหตุ เพราะคนอื่นเป็นเหต หรือเพราะอามิสลางสิ่งลาง อย่างเป็นเหตุ เป็นผู้ไม่พูดเท็จทั้ง ๆที่รู้อยู่.

         ๒.  ละคำพูดส่อเสียด เป็นผู้เว้นขาดจากคำพูดส่อเสียด คือไม่เป็นผู้ฟัง จากทางนี้แล้วไปบอกทางโน้น เพื่อทำลายพวกเหล่านี้ หรือไม่เป็นผู้ฟังจาก ทางโน้นแล้ว ก็มาบอกทางนี้ เพื่อทำลายพวกโน้น ดังนี้  ก็เป็นอันว่า เป็นผู้เชื่อมคน ที่แตกกันแล้วใ ห้สนิทกัน หรือเป็นผู้ส่งเสริมผู้ที่สนิทกันแล้วให้สนิทกันยิ่งขึ้น พอใจผู้ที่พร้อมเพรียงกัน ยินดีกับผู้ที่พร้อมเพรียงกัน ชอบผู้ที่พร้อมเพรียงกัน เป็นผู้พูดวาจาที่ทำให้สมัครสมานกัน.

        ๓.  ละคำพูดหยาบ เป็นผู้เว้นขาดจากคำพูดหยาบ เป็นผู้พูดแต่คำที่ไม่มีโทษ สบายหู  น่ารัก  ดื่มด่ำในหัวใจ เป็นภาษาชาวกรุง คนส่วนมากรักใคร่  คนส่วนมาก ชอบใจเห็นปานนั้น.

         ๔.  ละคำสำรากเพ้อเจ้อ เป็นผู้เว้นขาดจากคำสำรากเพ้อเจ้อ พูดเป็นเวลา พูดคำที่เป็นจริง พูดคำมีประโยชน์ พูดเป็นธรรมพูดเป็นวินัย เป็นผู้พูดคำที่มีหลักฐาน มีที่อ้างอิงตามเวลา มีที่สิ้นสุดประกอบด้วยประโยชน์.

         อย่างนี้แล พราหมณ์เละคฤหบดีทั้งหลาย จักเป็นความประพฤติเป็นธรรม และความประพฤติสม่ำเสมอทางวาจา  ๔ อย่าง.

ทางใจ

         " พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ก็แหละ ความประพฤติเป็นธรรม และ ความประพฤติสม่ำเสมอทางใจ ๓ อย่าง อย่างไรบ้าง คือ

         ๑.  พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย บุคคลลางคนในโลกนี้ ไม่ใช่เป็นผู้ มากไปด้วยความเพ่งเล็ง ไม่ใช่เป็นผู้เพ่งเล็ง ในสิ่งที่เป็นอุปกรณ์เครื่องปลื้มใจ ของคนอื่นๆ นั้นว่าโอหนอ ขอสิ่งที่เป็นของคนอื่นนั้น พึงเป็นของเรา.

         ๒.  และก็ไม่ใช่เป็นผู้มีจิตพยาบาท ไม่ใช่เป็นผู้มีจิตคิดแต่จะแก้แค้นว่า  "ขอให้สัตว์พวกนี้จงเป็นผู้ไม่พยาบาท ไม่มีทุกข์ มีสุขรักษาตนเถิด. "

         ๓.  อีกทั้งเป็นผู้มีความเห็นที่ถูกต้อง ไม่ใช่เป็นผู้มีความเห็นที่คลาดเคลื่อน ว่า  " ทานที่ให้แล้วมีผล การเซ่นสรวงมีผล การบูชามีผล ผลคือวิบากของกรรมที่ทำดี และทำชั่วมี โลกนี้มี โลกหน้ามี มารดามีบุญคุณ บิดามีบุญคุณ พวกสัตว์ที่ผุดขึ้น เกิดมี ในโลกมีสมณพราหมณ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ชนิดที่ทำให้แจ้งด้วยความรู้ยิ่งเอง แล้ว ประกาศโลกนี้และโลกหน้า.

         " อย่างนี้ว่ามานี้และพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย จัดเป็นความประพฤติ เป็นธรรม และความประพฤติสม่ำเสมอทางใจ ๓ อย่าง. "

         พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย เพราะความประพฤติเป็นธรรม และ ความประพฤติ สม่ำเสมอเป็นเหตุอย่างนี้แล เหล่าสัตว์บางพวกในโลกนี้เบื้องหน้า แต่ตาย เพราะกายแตกจึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์. "

.....................................................................................................................

เข้าถึง พราหมณ์-กษัตริย์

         [๔๘๖]  พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ผู้ประพฤติธรรมเป็นปกติ ประพฤติ เรียบร้อย เป็นปกติ ถ้าพึงหวังว่า " โอหนอ...หลังจากตายเพราะกายแตกไป. ขอให้เราเข้าถึงความเป็นพวกเดียวกันกับเหล่า กษัตริย์มหาศาล เถิด  ข้อที่เขา หลังจาก ตาย เพราะกายแตกไป พึงเข้าถึงความเป็นพวก เดียวกันกับเหล่ากษัตริย์ มหาศาลนี้ ย่อมเป็นไปได้โดยแท้ นั้นเพราะเหตุไร ? เพราะเขาเป็นผู้ปฏิบัติธรรม โดยปกติ ประพฤติสม่ำเสมอเป็นปกติ อย่างนั้น.

         พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ผู้ประพฤติธรรมเป็นปกติ ประพฤติสม่ำเสมอ เป็นปกติ ถ้าพึงหวังว่า " โอหนอ...หลังจากตายเพราะกายแตกไป ขอให้เราพึงเข้าถึง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับเหล่า พราหมณ์มหา-ศาล ฯลฯ เหล่าคฤหบดี มหาศาล เถิด."  ข้อที่หลังจากตายเพราะกายแตกไป เขาพึงเข้าถึงความเป็นอันหนึ่ง อันเดียวกัน กับพวกพราหมณ์มหา-ศาล ฯลฯ พวกคฤหบดีมหาศาลนี้ ย่อมเป็นไปได้ โดยแท้ นั้นเพราะเหตุไร? เพราะเขาเป็นผู้ประพฤติธรรมเป็นปกติ ประพฤติสม่ำเสมอ โดยปกติ อย่างนั้น."

เข้าถึง เทวดา

         พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ถ้าผู้ประพฤติธรรมเป็นปกติ ประพฤติสม่ำเสมอ เป็นปกติ พึงหวังว่า " โอหนอ... หลังจากตายเพราะกายแตกไป  ขอให้เราพึงเข้าถึง ความเป็นอันเดียวกัน กับเหล่าเทพ ชั้นจาตุมหาราชิกา... ชั้นดาวดึงส์... ชั้นยามา... ชั้นดุสิต... ชั้นนิมานรดี... ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี... ชั้นพรหมกายิกา (พรหมปาริสัชชา พรหมปุโรหิตา มหาพรหมา) เถิด ข้อที่เขา หลังจากตาย เพราะกายแตกไป พึงเข้าถึง ความเป็นพวกเดียวกัน กับเหล่าเทพ ชั้นจาตุมหาราชิกา ฯลฯ ชั้นพรหมกายิกานี้ ย่อมเป็นไปได้โดยแท้ นั้นเพราะเหตุไร เพราะเขาเป็นผู้ประพฤติธรรมเป็นปกติ ประพฤติสม่ำเสมอเป็นปกติอย่างนั้น." (เทวดาชั้นกามภพ และ รูปภพ-พรหมกายกา)

         พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ถ้าผู้ประพฤติธรรมเป็นปกติ ประพฤติสม่ำเสมอ เป็นปกติพึงหวังว่า " โอหนอ...หลังจากตายเพราะกายแตก ไป  ขอให้เราพึงเข้าถึง ความเป็นพวกเดียวกันกับเหล่าเทพ ชั้นอาภา (ปริตตาภา อัปปมาณาภา อาภัสสรา) เถิด ข้อที่หลังจากตายเพราะกายแตก ไป เขาพึงเข้าถึง ความเป็นพวกเดียวกัน กับเหล่าเทพ ชั้นอาภานี้ ย่อมเป็นไปได้ โดยแท้ นั้นเพราะ เหตุไร? เพราะเขาเป็นผู้ ประพฤติธรรมเป็นปกติ ประพฤติสม่ำเสมอเป็นปกติ อย่างนั้น." (เข้าถึงเทวดาชั้นพรหม อาภา)

         พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ถ้าผู้มีปกติประพฤติธรรมมีปกติ ประพฤติ เรียบร้อย พึงหวังว่า "โอหนอ...หลังจากตายเพราะกายแตกไป ขอให้เราเข้าถึงความ เป็นเพื่อนกับพวกเหล่าเทพ ชั้นปริตตสุภา... ชั้นอัปปมาณสุภา... ชั้นสุภกิณหกา... ชั้นเวหัปผลา... ชั้นอวิหา... ชั้นอตัปปา... ชั้นสุทัสสา... ชั้นสุทัสสี... ชั้นอกนิฏฐา... เข้าถึงอากาสานัญจายตนะ... เข้าถึงวิญญานัญจายตนะ.... เข้าถึง เนวสัญญานา สัญญายตนะ ข้อที่หลังจากตายเพราะกายแตก ไปเข้าพึงเข้าถึง ความเป็นเพื่อน กับพวกเหล่าเทพ ชั้นปริตตสุภาฯลฯ ผู้เข้าถึง เนวสัญญานา สัญญายตนะ  นี้ย่อมเป็นไปได้โดยแท้ นั้นเพราะเหตุไร ? เพราะเขาเป็นผู้มีปกติ ประพฤติธรรม  มีปกติประพฤติเรียบร้อยอย่างนั้น." (เข้าถึงเทวดาชั้นพรหม สุทธาวาส และ อรูปภพ)

         พราหมณ์เละคฤหดีทั้งหลาย ถ้าผู้มีปรกติประพฤติธรรม มีปรกติประพฤติ สม่ำเสมอ พึงหวังว่า

       " โอหนอ...หลังจากตายเพราะกายแตกไป ขอให้เราพึงทำเจโตวิมุตติ   ปัญญาวิมุตติ ที่ไม่มีอาสวะ เพราะพวกอาสวะสิ้นไป ให้แจ้งด้วยความรู้อย่างยิ่งเอง ในปัจจุบันนี้แล แล้วเข้าถึงอยู่เถิด ข้อที่เขาเป็นผู้ปกติประพฤติธรรม ประพฤติ สม่ำเสมอโดยปกติ พึงทำเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ ที่ไม่มีอาสวะ เพราะพวกอาสวะ สิ้นไป ให้แจ้งด้วยความรู้ ยิ่งเองในปัจจุบันนี้แล แล้วเข้าถึงอยู่ นี้ย่อมเป็นไปได้โดยแท้ นั้นเพราะเหตุไร เพราะเขาเป็นผู้มีปกติประพฤติธรรม ประพฤติสม่ำเสมอเป็นปกติ อย่างนั้น."(เข้าถึง เจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ จนสิ้นอาสวะ-นิพพาน)

๑. พวกอาภา มี ปริตตาภา อัปปมาณาภา อาภัสสรา แล้วทำไมบาลีถัดไป จึงเรียง ระบุว่า ปริตตาภา อัปปมาณาภา อาภัสสรา อีก ผู้แปลจึงตัดบาลีถัดไปตามแบบ พรหมกายิกา ที่ไม่ระบุพรหม ๓ ชั้นไว้อย่างที่แปลมาแล้ว.

         [๔๘๗]  เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสอย่างนี้เสร็จแล้ว พวกพราหมณ์ และ คฤหบดีชาวบ้านสาละ ได้พากันทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างนี้ ว่า" ไพเราะจริง ๆ พระโคดมผู้เจริญ พระโคดมผู้เจริญไพเราะจริง ๆ ธรรมที่พระโคดมผู้เจริญ ได้ประกาศแล้ว หลายแบบ เหมือนหงายภาชนะที่คว่ำเปิด สิ่งที่ปิด บอกทาง แก่คนหลง หรือส่องตะเกียงน้ำมันในที่มืดด้วยคิดว่า " พวกผู้มีตาดี ๆ จะได้เห็นรูป "  ฉะนั้นแลพระโคดมผู้เจริญ พวกข้า-พระองค์ขอเข้าถึง พระโคดมผู้เจริญ พระธรรม  และพระสงฆ์ เป็นสรณะขอพระโคดม ผู้เจริญ จงทรงจำพวกข้าพระองค์ว่า เป็นอุบาสกถึงสรณะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป.

 

 

 
 
พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90  
 
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์
อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
 
   
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน อานา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์