เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 
  ภูมกสูตร อสิพันธกบุตร ถาม พ. ว่าพวกพราหมณ์ที่สวดอ้อนวอน จะได้ไปสวรรค์หรือไม่ 847
 
(เนื้อหาพอสังเขป)

ภูมกสูตร

อสิพันธกบุตร เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ได้ทูลถาม พระผู้มีพระภาคว่า พวกพราหมณ์ชาวปัจฉาภูมิ มีคณโฑน้ำ ติดตัว ประดับ พวงมาลัย สาหร่าย อาบน้ำทุกเช้าเย็น บำเรอไฟ พราหมณ์เหล่านั้น ชื่อว่ายังสัตว์ ที่ตายทำกาละ แล้วให้เป็นขึ้น ให้รู้ชอบ ชวนให้เข้าสวรรค์ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็พระผู้มีพระภาค ผู้เป็นพระอรหันตสัมมา สัมพุทธเจ้า สามารถกระทำให้สัตว์โลก ทั้งหมดเมื่อตายไป พึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ได้หรือ

พ.บุรุษนั้นเมื่อตายไปพึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะเหตุการสวดวิงวอน เพราะเหตุการสรรเสริญ หรือ เพราะเหตุ การประนมมือ เดินเวียนรอบดังนี้หรือ ฯ

เปรียบเหมือนบุรุษโยนหินลงในห้วงน้ำลึก หมู่มหาชนพึงมาประชุมกันแล้ว สวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือ เดินเวียนรอบหินนั้นว่า ขอจงโผล่ขึ้นเถิดท่านก้อนหิน ขอจงลอยขึ้นเถิด ท่านก้อนหิน ขอจงขึ้นบกเถิด ท่านก้อนหิน ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ก้อนหินนั้นพึงโผล่ ขึ้น พึงลอยขึ้น หรือพึงขึ้นบก เพราะเหตุการสวดวิงวอน สรรเสริญประนมมือ เดินเวียน รอบ ของหมู่มหาชนบ้าง หรือ ฯ

 
 


ฉบับหลวง (ไทย) เล่มที่ ๑๘ สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค หน้าที่ ๓๑๙

ภูมกสูตร


          [๕๙๘] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ปาวาริกอัมพวัน ใกล้เมือง นาฬันทา ครั้งนั้นแล นายบ้านนามว่าอสิพันธกบุตร เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึงที่ ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถาม พระผู้มีพระภาคว่า

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกพราหมณ์ชาวปัจฉาภูมิ มีคณโฑน้ำติดตัว ประดับ พวงมาลัย สาหร่าย อาบน้ำทุกเช้าเย็น บำเรอไฟ พราหมณ์เหล่านั้น ชื่อว่ายังสัตว์ ที่ตายทำกาละแล้วให้เป็นขึ้น ให้รู้ชอบ ชวนให้เข้าสวรรค์ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็พระผู้มีพระภาค ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า สามารถกระทำให้สัตว์โลก ทั้งหมด เมื่อตายไป พึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ได้หรือ

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

ดูกรนายคามณี ถ้าอย่างนั้น เราจักย้อนถามท่านในข้อนี้ ปัญหาควรแก่ท่าน ด้วยประการใด ท่านพึงพยากรณ์ปัญหาข้อนั้นด้วยประการนั้น ท่านจะสำคัญความข้อ นั้นเป็นไฉน บุรุษในโลกนี้ฆ่าสัตว์ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อมากไปด้วยอภิชฌา มีจิตพยาบาท มีความเห็นผิด หมู่มหาชน มาประชุมกันแล้ว พึงสวดวิงวอนสรรเสริญ ประนมมือเดิน เวียนรอบผู้นั้นว่า ขอบุรุษนี้ เมื่อตายไป จงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์

ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุรุษนั้นเมื่อตายไปพึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะเหตุการสวดวิงวอน เพราะเหตุการสรรเสริญ หรือ เพราะเหตุการประนมมือ เดินเวียนรอบดังนี้หรือ ฯ

คา. ไม่ใช่อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ


          [๕๙๙] พ. ดูกรนายคามณี เปรียบเหมือนบุรุษโยนหินก้อนหนาใหญ่ลงใน ห้วงน้ำลึก หมู่มหาชนพึงมาประชุมกันแล้วสวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือเดิน เวียนรอบหินนั้นว่า ขอจงโผล่ขึ้นเถิดท่านก้อนหิน ขอจงลอยขึ้นเถิดท่านก้อนหิน ขอจงขึ้นบกเถิด ท่านก้อนหิน ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ก้อนหินนั้นพึงโผล่ ขึ้น พึงลอยขึ้น หรือพึงขึ้นบก เพราะเหตุการสวดวิงวอน สรรเสริญประนมมือ เดินเวียน รอบ ของหมู่มหาชนบ้างหรือ ฯ

คา. ไม่ใช่อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ

พ. ดูกรนายคามณี ฉันนั้นเหมือนกัน บุรุษคนใดฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ มากไปด้วยอภิชฌา มีจิตพยาบาท มีความเห็นผิด หมู่มหาชนพึงมาประชุมกันแล้วสวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือ เดินเวียนรอบบุรุษนั้น ว่า ขอบุรุษนี้เมื่อตายไป  จงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ก็จริง แต่บุรุษนั้นเมื่อตาย พึงเข้าถึงอบาย ทุคติวินิบาต นรก ฯ


          [๖๐๐] ดูกรนายคามณี ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุรุษในโลกนี้เว้น จากปาณาติบาต อทินนาทาน กาเมสุมิจฉาจาร มุสาวาท ปิสุณาวาจาผรุสวาจา สัมผัปปลาปะ ไม่มากไปด้วยอภิชฌา มีจิตไม่พยาบาท มีความเห็นชอบหมู่มหาชน พึงมาประชุมกันแล้ว สวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือเดินเวียนรอบบุรุษนั้นว่า ขอบุรุษนี้เมื่อตายไป จงเข้าถึงอบายทุคติ วินิบาต นรก ท่านจะสำคัญความข้อนั้น เป็นไฉน บุรุษนั้นเมื่อตายไป พึงเข้าถึงอบายทุคติ วินิบาตนรก เพราะเหตุการสวด วิงวอน สรรเสริญ หรือเพราะเหตุการประนมมือ เดินเวียนรอบ ของหมู่มหาชนบ้างหรือ ฯ

คา. ไม่ใช่อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ


          [๖๐๑] พ. ดูกรนายคามณี เปรียบเหมือนบุรุษลงยังห้วงน้ำลึก แล้วพึงทุบหม้อ เนยใส หรือหม้อน้ำมัน ก้อนกรวด หรือก้อนหินที่มีอยู่ในหม้อนั้น พึงจมลง เนยใส หรือน้ำมัน ที่มีอยู่ในหม้อนั้นพึงลอยขึ้น หมู่มหาชนพึงมาประชุมกันแล้วสวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือเดินเวียนรอบเนยใส หรือน้ำมันนั้นว่าขอจงจมลงเถิด ท่านเนยใส และน้ำมัน ขอจงดำลงเถิดท่านเนยใสและน้ำมัน

ขอจงลงภายใต้เถิดท่านเนยใสและน้ำมัน ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉนเนยใส และน้ำมันนั้นพึงจมลง พึงดำลง พึงลงภายใต้ เพราะเหตุการสวดวิงวอนสรรเสริญ หรือเพราะเหตุการประนมมือ เดินเวียนรอบของหมู่มหาชน บ้างหรือ ฯ

คา. ไม่ใช่อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ

พ. ดูกรนายคามณี ฉันนั้นเหมือนกัน บุรุษใดเว้นจากปาณาติบาต อทินนาทาน กาเมสุมิจฉาจาร มุสาวาท ปิสุณาวาจา ผรุสวาจา สัมผัปปลาปะไม่มากไปด้วยอภิชฌา มีจิตไม่พยาบาท มีความเห็นชอบ หมู่มหาชนจะพากันมาประชุมแล้วสวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือเดินเวียนรอบบุรุษนั้นว่า ขอบุรุษนี้เมื่อตายไป จงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ก็จริงแต่บุรุษนั้นเมื่อตายไปพึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ฯ


          [๖๐๒] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว นายบ้านนามว่าอสิพันธกบุตร ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระธรรมเทศนาของ พระองค์ แจ่มแจ้งนัก ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระธรรมเทศนาของพระองค์แจ่มแจ้งนัก พระผู้มี พระภาคทรงประกาศธรรม โดยอเนกปริยาย ดุจหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางให้แก่คนหลงทาง หรือส่องไฟในที่มืดด้วยหวังว่า คนมีจักษุ จักเห็นรูป ฉะนั้น

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์นี้ขอถึงพระผู้มีพระภาคกับทั้งพระธรรม และ ภิกษุสงฆ์ ว่าเป็นสรณะ ขอพระผู้มีพระภาคโปรดทรงจำข้า พระองค์ ว่าเป็นอุบาสก ผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะจนตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฯ

 
 
พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90  
 
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์
อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
 
   
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน อานา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์