อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคปลาย หน้า 1062
วจีกรรม ๓ สถาน เมื่อจะกระทำ เมื่อกระทำอยู่ เมื่อกระทำแล้ว
หมวดที่ ๑ : เมื่อจะกระทำ
ราหุล ! เธอใคร่จะทำกรรมใดด้วยวาจา พึงพิจารณากรรมนั้นเสียก่อนว่า “วจีกรรม ที่เราใคร่ จะกระทำนี้ เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง เบียดเบียนผู้อื่นบ้าง เบียดเบียน ทั้งสองฝ่ายบ้าง เป็นวจีกรรมที่เป็นอกุศล มีทุกข์เป็นกำไร มีทุกข์เป็นวิบาก หรือไม่หนอ? ” ดังนี้ ราหุล ! ถ้าเธอ พิจารณารู้สึกอยู่ดังนี้ไซร้ เธอ ไม่พึงกระทำวจีกรรมชนิดนั้น โดยถ่ายเดียว.
ราหุล ! ถ้าเธอพิจารณา รู้สึกดังนี้ว่า “วจีกรรมที่เราใคร่จะกระทำนี้ ไม่เป็นไปเพื่อเบียด เบียน ตนเองบ้าง ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนทั้งสอง ฝ่ายบ้าง เป็นวจีกรรมที่เป็นกุศล มีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบาก” ดังนี้ไซร้ ราหุล ! เธอ พึงกระทำวจีกรรม ชนิดนั้น
หมวดที่ ๒ เมื่อกระทำอยู่
ราหุล ! เมื่อเธอกระทำกรรมใดด้วยวาจาอยู่ พึงพิจารณากรรมนั้นว่า “วจีกรรมที่เรา กำลัง กระทำอยู่นี้ เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง เบียดเบียนผู้อื่นบ้าง เบียดเบียน ทั้งสองฝ่ายบ้าง เป็นวจีกรรมที่เป็นอกุศล มีทุกข์เป็นกำไรมีทุกข์เป็นวิบาก หรือไม่หนอ ?” ดังนี้ ราหุล ! ถ้าเธอ พิจารณา รู้สึกอยู่ดังนี้ไซร้ เธอ พึงเลิกละวจีกรรมชนิดนั้นเสีย
ราหุล ! ถ้าเธอพิจารณา รู้สึกอยู่ดังนี้ว่า “วจีกรรมที่เรากำลังกระทำอยู่นี้ ไม่เป็นไปเพื่อ เบียดเบียนตนเองบ้าง ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียน ทั้งสองฝ่ายบ้าง เป็นวจีกรรมที่เป็นกุศล มีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบาก” ดังนี้ไซร้ ราหุล ! เธอ พึงเร่งเพิ่มการกระทำวจีกรรมชนิดนั้น.
หมวดที่ ๓ เมื่อกระทำแล้ว
ราหุล ! เมื่อเธอกระทำกรรมใดด้วยวาจาแล้วพึงพิจารณากรรมนั้นว่า “วจีกรรมที่เรา กระทำแล้วนี้ เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง เบียดเบียนผู้อื่นบ้าง เบียดเบียนทั้งสอง ฝ่ายบ้าง เป็น วจีกรรมที่เป็นอกุศล มีทุกข์เป็นกำไรมีทุกข์เป็นวิบาก หรือไม่หนอ ?” ดังนี้
ราหุล ! ถ้าเธอพิจารณา รู้สึกอยู่ดังนี้ไซร้ เธอพึงแสดง พึงเปิดเผย พึงกระทำให้เป็น ของหงาย ซึ่งวจีกรรมนั้น ในพระศาสดา หรือในเพื่อน สพรหมจารีผู้เป็นวิญญูชน ทั้งหลาย ครั้นแสดง ครั้นเปิดเผย ครั้นกระทำให้เป็นของหงายแล้ว พึงถึงซึ่งความ ระวัง สังวรต่อไป.
ราหุล ! ถ้าเธอพิจารณา รู้สึกอยู่ดังนี้ว่า “วจีกรรมที่เรากระทำแล้วนี้ ไม่เป็นไปเพื่อ เบียดเบียน ตนเองบ้าง ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียน ผู้อื่นบ้าง ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียน ทั้งสองฝ่ายบ้าง เป็นวจีกรรมที่เป็นกุศล มีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบาก” ดังนี้ไซร้
ราหุล ! เธอ พึงอยู่ด้วยปีติและปราโมทย์ตามศึกษาในกุศลธรรมทั้งหลายอยู่ทั้งกลางวันและกลางคืนเถิด |