เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 
  วาจาของสัตบุรุษ และ อสัตบุรุษ สะใภ้ใหม่-สะใภ้เก่า 712
 
(เนื้อหาพอสังเขป)

๑. วาจาของอสัตบุรุษ ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ
(1) แม้ไม่มีใครถามถึงความไม่ดีของบุคคลอื่น ก็นำมาเปิดเผยให้ปรากฏ
(2) แม้ถูกใครถามอยู่ถึง ความดีของบุคคลอื่น ก็ไม่เปิดเผยให้ปรากฏ
(3) แม้ถูกใครถามถึง ความไม่ดีของตน ก็ปกปิดไม่เปิดเผยให้ปรากฏ
(4) แม้ไม่มีใครถามถึงความ ดีของตน ก็นำมาโอ้อวดเปิดเผย
ภิกษุ ท. ! บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการเหล่านี้ แล เป็นที่รู้กันว่าเป็น อสัตบุรุษ

๒ วาจาของสัตบุรุษ
ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ
(1) แม้มีใครถามถึง ความไม่ดีของบุคคลอื่น ก็ไม่เปิดเผยให้ปรากฏ
(2) แม้ไม่ถูกใครถามถึง ความดีของบุคคลอื่น ก็ยังนำมาเปิดเผยให้ปรากฏ
(3) แม้ไม่มีใครถามถึงความไม่ดีของตน ก็ยังนำเปิดเผยทำให้ปรากฏ
(4) แม้มีใครถามถึงความดีของตน ก็ไม่เปิดเผยให้ปรากฏ
ภิกษุ ท. ! บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการเหล่านี้ แล เป็นที่รู้กันว่าเป็น สัตบุรุษ

๓. วาจาของสะใภ้ใหม่-สะใภ้เก่า
ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนหญิงสะใภ้ใหม่ที่เข้ามาอยู่เรือน ก็ยังมีความละอาย และเกรงกลัวในแม่ผัวบ้าง ในพ่อผัวบ้าง ในสามีบ้าง ครั้นล่วงไปและอาศัยความคุ้นเคยกัน หญิงสะใภ้นั้น ก็ตวาดแม่ผัวบ้าง ...ภิกษุบางรูปในธรรมวินัยนี้ ออกบวชจากเรือน เป็นผู้ไม่มีเรือน ได้ชั่วคืนชั่ววัน ตลอดเวลาเพียงเท่านั้น หิริและโอตตัปปะของเธอนั้น ยังดำรงอยู่ อย่างเข้มแข็ง ในภิกษุ ในภิกษุณี ในอุบาสก ในอุบาสิกา แม้ที่สุดแต่ในคนวัด และสามเณร. เธอพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราจักอยู่อย่างมีจิตเสมอกันกับ หญิงสะใภ้ใหม่ ผู้มาแล้วไม่นาน” ดังนี้.

 
 


- จตุกฺก.อํ.๒๑/๑๐๐/๗๓.


วาจาของสัตตบุรุษ และ อสัตตบุรุษ


๑. วาจาของอสัตบุรุษ

ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ เป็นที่รู้กันว่าเป็น อสัตบุรุษ.
สี่ประการ อย่างไรเล่า ? สี่ประการ คือ :-

(1) ภิกษุ ท. ! อสัตบุรุษในกรณีนี้
      แม้ไม่มีใครถามถึงความไม่ดีของบุคคลอื่น ก็นำมาเปิดเผยให้ปรากฏ ไม่ต้องกล่าวถึงเมื่อถูกใครถาม
      ก็เมื่อถูกใครถามถึงความไม่ดีของบุคคลอื่น ก็นำเอาปัญหาไปทำให้ไม่มีทางหลีก เลี้ยวลดหย่อน แล้วกล่าวความไม่ดีของผู้อื่นอย่างเต็มที่โดยพิสดาร.

ภิกษุ ท. ! ข้อนี้พึงรู้กันเถิดว่า คนคนนี้ เป็น อสัตบุรุษ.

(2) ภิกษุ ท. ! อสัตบุรุษอย่างอื่นยังมีอีก คือ
      แม้ถูกใครถามอยู่ถึง ความดีของบุคคลอื่น ก็ไม่เปิดเผยให้ปรากฏ ไม่ต้องกล่าวถึงเมื่อไม่ถูกใครถาม
      ก็เมื่อถูกใครถามถึงความดีของบุคคลอื่น ก็นำอาปัญหาไปทำให้ลดหย่อน ไขว้เขวแล้ว กล่าวความดีของผู้อื่นอย่างไม่พิสดารเต็มที่
.
ภิกษุ ท. ! ข้อนี้พึงรู้กันเถิดว่า คนคนนี้ เป็น อสัตบุรุษ.

(3) ภิกษุ ท. ! อสัตบุรุษอย่างอื่นยังมีอีก คือ
      แม้ถูกใครถามถึง ความไม่ดีของตน ก็ปกปิดไม่เปิดเผยให้ปรากฏ ไม่ต้องกล่าวถึงเมื่อไม่ถูกใครถาม
      ก็เมื่อถูกใครถามถึงความไม่ดีของตน ก็นำเอาปัญหาไปทำให้ลดหย่อนไขว้เขว แล้วกล่าวความไม่ดีของตนอย่างไม่พิสดารเต็มที่.

ภิกษุ ท. ! ข้อนี้พึงรู้กันเถิดว่า คนคนนี้ เป็น อสัตบุรุษ.

(4) ภิกษุ ท. ! อสัตบุรุษอย่างอื่นยังมีอีก คือ
      แม้ไม่มีใครถามถึงความ ดีของตน ก็นำมาโอ้อวดเปิดเผย จะต้องกล่าวทำไมถึงเมื่อถูกใครถาม
      ก็เมื่อถูกใครถามถึงความดีของตน ก็นำเอาปัญหาไปทำให้ไม่ลดหย่อนหลีกเลี้ยว กล่าวความดีของตนอย่างเต็มที่โดยพิสดาร.

ภิกษุ ท. ! ข้อนี้พึงรู้กันเถิดว่า คนคนนี้ เป็น อสัตบุรุษ.

ภิกษุ ท. ! บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการเหล่านี้ แล เป็นที่ รู้กันว่าเป็นอสัตบุรุษ.

......................................................................................

๒. วาจาของสัตบุรุษ

ภิกษุ ท. ! บุคคลประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ เป็นที่รู้กันว่าเป็น สัตบุรุษ. สี่ประการ อย่างไรเล่า ? สี่ประการ คือ :-

(1) ภิกษุ ท. ! สัตบุรุษในกรณีนี้
      แม้มีใครถามถึง ความไม่ดีของบุคคลอื่น ก็ไม่เปิดเผยให้ปรากฏ จะกล่าวทำไมถึงเมื่อไม่ถูกใครถาม
      ก็เมื่อถูก ใครถามถึงความไม่ดีของบุคคลอื่น ก็นำเอาปัญหาไปทำให้หลีกเลี้ยว ลดหย่อนลง กล่าวความไม่ดีของผู้อื่นอย่างไม่พิสดารเต็มที่.

ภิกษุ ท. ! ข้อนี้พึงรู้กันเถิดว่า คนคนนี้ เป็น สัตบุรุษ.

(2)ภิกษุ ท. ! สัตบุรุษอย่างอื่นยังมีอีก คือ
      แม้ไม่ถูกใครถามถึง ความดีของบุคคลอื่น ก็ยังนำมาเปิดเผยให้ปรากฏ จะต้องกล่าวทำไมถึงเมื่อถูกใครถาม
      ก็เมื่อถูกใครถามถึงความดีของบุคคลอื่น ก็นำเอาปัญหาไปทำให้ไม่หลีกเลี้ยว ลดหย่อน กล่าวความดีของผู้อื่นโดยพิสดารบริบูรณ์.

ภิกษุ ท. ! ข้อนี้พึงรู้กันเถิดว่า คนคนนี้ เป็น สัตบุรุษ.

(3) ภิกษุ ท. ! สัตบุรุษอย่างอื่นยังมีอีก คือ
      แม้ไม่มีใครถามถึงความไม่ ดีของตน ก็ยังนำเปิดเผยทำให้ปรากฏทำไมจะต้อง กล่าวถึงเมื่อถูกถามเล่า
      ก็เมื่อถูกใครถามถึงความไม่ดีของตน ก็ไม่นำเอาปัญหาไปทำให้ลดหย่อนบิดพลิ้ว แต่กล่าวความไม่ดีของตนอย่างโดยพิสดารเต็มที่.

ภิกษุ ท. ! ข้อนี้พึงรู้กันเถิดว่า คนคนนี้ เป็น สัตบุรุษ.

(4) ภิกษุ ท. ! สัตบุรุษอย่างอื่นยังมีอีก คือ
      แม้มีใครถามถึงความดีของตน ก็ไม่เปิดเผยให้ปรากฏ ทำไมจะต้องกล่าวถึง เมื่อไม่ถูกใครถามเล่า
      ก็เมื่อถูกใครถามถึงความดีของตน ก็นำเอาปัญหาไปกระทำให้ลดหย่อนหลีก เลี้ยวเสีย กล่าวความดีของตนโดยไม่พิสดารเต็มที่
.
ภิกษุ ท. ! ข้อนี้พึงรู้กันเถิดว่า คนคนนี้ เป็น สัตบุรุษ.

ภิกษุ ท. ! บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการเหล่านี้ แล เป็นที่รู้กันว่าเป็นสัตบุรุษ.

......................................................................................

๓. วาจาของสะใภ้ใหม่-สะใภ้เก่า

ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนหญิงสะใภ้ใหม่ อันเขาเพิ่งนำมาชั่วคืนชั่ววัน ตลอดเวลา เท่านั้น ก็ยังมีความละอาย และความกลัวที่ดำรงไว้ได้อย่างเข้มแข็ง ในแม่ผัวบ้าง ในพ่อผัวบ้าง ในสามีบ้าง แม้ที่สุดแต่ในทาสกรรมกรคนใช้.

ครั้นล่วงไปโดยสมัยอื่น เพราะอาศัยความคุ้นเคยกัน หญิงสะใภ้นั้น ก็ตวาดแม่ผัวบ้าง พ่อผัวบ้าง แม้แต่กะสามี ว่า ‘หลีกไป ๆพวกแกจะรู้อะไร’ ดังนี้ นี้ฉันใด

ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น : ภิกษุบางรูปในธรรมวินัยนี้ ออกบวชจากเรือน เป็นผู้ไม่มีเรือน ได้ชั่วคืนชั่ววัน ตลอดเวลาเพียงเท่านั้น หิริและโอตตัปปะของเธอนั้น ยังดำรงอยู่ อย่างเข้มแข็ง ในภิกษุ ในภิกษุณี ในอุบาสก ในอุบาสิกา แม้ที่สุดแต่ในคนวัด และสามเณร.

ครั้นล่วงไปโดยสมัยอื่น เพราะอาศัยความคุ้นเคยกัน เธอก็กล่าว ตวาดอาจารย์บ้าง อุปัชฌาย์บ้าง ว่า ‘หลีกไปๆ พวกท่านจะรู้อะไร’ ดังนี้.

ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้ เธอทั้งหลายพึงทำการศึกษาสำเหนียก อย่างนี้ว่า “เราจักอยู่อย่างมีจิตเสมอกันกับหญิงสะใภ้ใหม่ผู้มาแล้วไม่นาน” ดังนี้.

ภิกษุ ท. ! พวกเธอทั้งหลาย พึงทำการศึกษาสำเหนียกอย่างนี้ แล.


 
 
พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90  
 
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์
อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
 
   
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน อานา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์