พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๘๔
ปิณฑปาตสูตร
ท้าวสักกะจอมเทวดาชั้นดาวดึงส์ปลอมตัวเป็นชาวบ้าน
เพื่อรอตักบาตร กับพระมหากัสสป
[๗๙] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน ใกล้ พระนครราชคฤห์ ก็สมัยนั้นแล ท่านพระมหากัสสปนั่งเข้าสมาธิ อย่างใด อย่างหนึ่ง อยู่ โดยบัลลังก์เดียว ที่ถ้ำปิปผลิคูหา สิ้น ๗ วัน ครั้นพอล่วง ๗ วันนั้นไปท่าน พระมหากัสสป ก็ออกจากสมาธินั้น เมื่อท่านพระมหากัสสปออกจาก สมาธินั้นแล้ว ได้มีความ คิดว่าถ้ากระไร เราพึงเข้าไปบิณฑบาตยังพระนครราชคฤห์เถิด
ก็สมัยนั้นแล เทวดาประมาณ ๕๐๐ ถึงความขวนขวายเพื่อจะให้ท่าน พระมหากัสสป ได้บิณฑบาต ครั้งนั้นเป็นเวลาเช้า ท่านพระมหากัสสปห้ามเทวดา ประมาณ ๕๐๐ เหล่านั้น แล้วนุ่งผ้าอันตรวาสก ถือบาตร และจีวรเข้าไปบิณฑบาตยัง พระนคร ราชคฤห์
[๘๐] ก็สมัยนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทพ ทรงพระประสงค์จะถวายบิณฑบาต แก่ท่าน พระมหากัสสป จึงทรงนิรมิตเพศ เป็นนายช่างหูกทอหูก อยู่นางอสุรกัญญา ชื่อว่า สุชาดา กรอด้ายหลอดอยู่ ครั้งนั้นแล ท่านพระมหากัสสปเที่ยวไปบิณฑบาตใน พระนครราชคฤห์ ตามลำดับตรอก เข้าไปถึงนิเวศน์ของท้าวสักกะจอมเทพ ท้าวสักกะ จอมเทพได้ทรงเห็น ท่านพระมหากัสสปมาแต่ไกล ครั้นแล้วเสด็จออกจาก เรือนทรง ต้อนรับ ทรงรับบาตรจากมือ เสด็จเข้าไปสู่เรือน ทรงคดข้าวออกจากหม้อ ใส่เต็มบาตร แล้วทรงถวายแด่ท่าน พระมหากัสสป บิณฑบาตนั้นมีสูปะ และพยัญชนะ เป็นอันมาก
ครั้งนั้นแล ท่านพระมหากัสสปคิดว่าสัตว์นี้เป็นใครหนอแล มีอิทธานุภาพเห็นปานนี้ ครั้งนั้นแล ท่านพระมหากัสสปมีความคิดว่า ท้าวสักกะ จอมเทพ หรือหนอแล ท่านพระมหากัสสป ทราบดังนี้แล้วได้กล่าวกะ ท้าวสักกะจอมเทพว่า
ดูกรท้าวโกสีย์* มหาบพิตรทำกรรมนี้แล้วแล มหาบพิตรอย่าได้ทำกรรม เห็นปาน นี้ แม้อีก ท้าวสักกะจอมเทพตรัสว่า ข้าแต่ท่านพระมหากัสสปผู้เจริญ แม้ข้าพเจ้าก็ ต้องการบุญ แม้ข้าพเจ้าก็พึงทำเพราะบุญครั้งนั้นแล ท้าวสักกะ จอมเทพ ทรงอภิวาท ท่านพระมหากัสสป ทรงทำประทักษิณแล้ว เหาะขึ้นสู่เวหาส เปล่งอุทาน ๓ ครั้ง ในอากาศว่า
โอ ทานเป็นทานอย่างยิ่ง เราตั้งไว้ดีแล้วในพระกัสสป
โอ ทานเป็นทานอย่างยิ่ง เราตั้งไว้ดีแล้วในพระกัสสป
โอ ทานเป็นทานอย่างยิ่ง เราตั้งไว้ดีแล้วในพระกัสสป
*(ท้าวโกสีย์ เป็นพระอินทร์ เป็นจอมเทพในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เรียกท้าวโกสีย์บ้าง ท้าวสักกเทวราชบ้าง เป็นเทวดาชั้นกามภพ )
[๘๑] พระผู้มีพระภาคได้ทรงสดับอุทานของท้าวสักกะจอมเทพ เสด็จเหาะ ขึ้นไปสู่ เวหาส แล้ว ทรงเปล่งอุทานในอากาศ ๓ ครั้งว่า
โอ ทานเป็นทานอย่างยิ่ง เราตั้งไว้ดีแล้วในพระกัสสป
โอ ทานเป็นทานอย่างยิ่ง เราตั้งไว้ดีแล้วในพระกัสสป
โอ ทานเป็นทานอย่างยิ่ง เราตั้งไว้ดีแล้วในพระกัสสป
ด้วยทิพโสตธาตุอันบริสุทธิ์ล่วงโสตของมนุษย์ ลำดับนั้นแลพระผู้มีพระภาค ทราบ เนื้อความนี้แล้ว ได้ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ย่อมรักใคร่ ต่อภิกษุผู้ถือการเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร ผู้เลี้ยงตนมิใช่เลี้ยงคนอื่น ผู้คงที่สงบแล้ว มีสติทุกเมื่อ
|