เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 
  กายสูตร 499
 
 


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๗


กายสูตร


[๒๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย

     1 ธรรมอันบุคคลพึงละด้วยกาย มิใช่ด้วยวาจามีอยู่

     2 ธรรมอันบุคคลพึงละด้วยวาจา มิใช่ด้วยกายมีอยู่
     3 ธรรมอันบุคคลพึงละด้วยกายไม่ได้ด้วยวาจาไม่ได้ พึงเห็นชัดด้วยปัญญา แล้วจึงละได้มีอยู่

ดูกรภิกษุทั้งหลายก็
1
ธรรมอันบุคคลพึงละด้วยกาย มิใช่ด้วยวาจาเป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นผู้ต้องส่วนอาบัติไรๆ อันเป็นอกุศลด้วยกาย เพื่อนพรหมจารีทั้งหลายผู้เป็นวิญญูใคร่ครวญแล้ว ได้กล่าวกะภิกษุนั้นอย่างนี้ว่า ท่านผู้มีอายุเป็นผู้ต้องแล้วซึ่งส่วนอาบัติไรๆ อันเป็นอกุศลด้วยกาย เป็นการดีหนอ ที่ท่านผู้มีอายุจงละกายทุจริต บำเพ็ญกายสุจริต ภิกษุนั้นอันเพื่อนพรหมจารีทั้งหลาย ผู้เป็นวิญญูใคร่ครวญแล้วกล่าวอยู่ ย่อมละกายทุจริต บำเพ็ญกายสุจริต
ดูกรภิกษุทั้งหลายธรรมเหล่านี้ เรียกว่าอันบุคคลพึงละด้วยกาย ไม่ใช่ด้วยวาจา ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
2
ก็ธรรมอันบุคคลพึงละด้วยวาจา มิใช่ด้วยกายเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ต้องส่วนอาบัติไรๆ อันเป็นอกุศลด้วยวาจา เพื่อนพรหมจารีทั้งหลายผู้เป็นวิญญูใคร่ครวญแล้ว ได้กล่าวกะภิกษุนั้นอย่างนี้ว่า ท่านผู้มีอายุเป็นผู้ต้องแล้วซึ่งส่วนอาบัติไรๆ อันเป็นอกุศลด้วยวาจา เป็นการดีหนอ ที่ท่านผู้มีอายุจงละวจีทุจริต บำเพ็ญวจีสุจริต ภิกษุนั้นอันเพื่อนพรหมจารีทั้งหลายผู้เป็นวิญญูใคร่ครวญแล้ว ว่ากล่าวอยู่ ละวจีทุจริตบำเพ็ญวจีสุจริต ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมเหล่านี้ เรียกว่าอันบุคคลพึงละด้วยวาจามิใช่ด้วยกาย ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
3 ก็ธรรมอันบุคคลพึงละด้วยกายไม่ได้ ละด้วยวาจาไม่ได้ พึงเห็นชัดด้วยปัญญาแล้วจึงละได้ เป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย โลภะอันบุคคล พึงละด้วยกายไม่ได้ ด้วยวาจาไม่ได้ พึงเห็นชัดด้วยปัญญาแล้วจึงละได้โทสะ ... โมหะ ... โกธะ ... อุปนาหะ ... มักขะ ... ปฬาสะ ... มัจฉริยะ... ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความริษยาอันชั่วช้า อันบุคคลพึงละด้วยกายไม่ได้ ด้วยวาจาไม่ได้ พึงเห็นชัดด้วยปัญญาแล้วจึงละได้ ฯ


ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ความริษยาอันชั่วช้าเป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลายคฤหบดี หรือบุตร แห่งคฤหบดีในโลกนี้ ย่อมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์ ข้าวเปลือก เงินหรือทอง ทาสหรือคนเข้าไปอาศัยของคฤหบดีหรือบุตรแห่ง คฤหบดี ผู้ใดผู้หนึ่งย่อมคิดอย่างนี้ว่า
โอหนอ คฤหบดีหรือบุตรแห่งคฤหบดีนี้ ไม่พึงสมบูรณ์ด้วยทรัพย์ ข้าวเปลือก เงินหรือทอง อนึ่ง สมณะหรือพราหมณ์เป็นผู้ได้จีวรบิณฑบาต เสนาสนะ และเภสัชบริขารอันเป็นปัจจัยแก่คนไข้ สมณะหรือพราหมณ์ผู้ใดผู้หนึ่ง ย่อมคิดอย่างนี้ว่า โอหนอ ท่านผู้มีอายุนี้ ไม่พึงได้จีวรบิณฑบาต เสนาสนะ และเภสัชบริขารอันเป็นปัจจัยแก่คนไข้ ดูกรภิกษุทั้งหลายนี้เรียกว่าความริษยา อันชั่วช้า
....................................................................................................

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความริษยาอันชั่วช้า อันบุคคลพึงละด้วยกายไม่ได้ ด้วยวาจาไม่ได้ พึงเห็นชัดด้วยปัญญาแล้วจึงละได้ ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความปรารถนาอันชั่วช้า อันบุคคลพึงละด้วยกายไม่ได้ ด้วยวาจาไม่ได้ พึงเห็นชัดด้วยปัญญาแล้วจึงละได้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ความปรารถนาอันชั่วช้าเป็นไฉน

ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ไม่มีศรัทธา
ย่อมปรารถนาว่า คนทั้งหลายพึงรู้เราว่า เป็นผู้มีศรัทธา เป็นผู้ทุศีล
ย่อมปรารถนาว่า คนทั้งหลายพึงรู้ว่าเรา เป็นผู้มีศีล เป็นผู้ได้สดับน้อย
ย่อมปรารถนาว่า คนทั้งหลายพึงรู้เราว่า เป็นผู้ได้สดับมาก เป็นผู้มีความยินดีในการคลุกคลีด้วยหมู่คณะ
ย่อมปรารถนาว่า คนทั้งหลายพึงรู้เราว่า เป็นผู้ชอบสงัดเป็นผู้เกียจคร้าน
ย่อมปรารถนาว่า คนทั้งหลายพึงรู้เราว่า เป็นผู้ปรารภความเพียรเป็นผู้มีสติหลงลืม
ย่อมปรารถนาว่า คนทั้งหลายพึงรู้เราว่า เป็นผู้มีสติตั้งมั่นเป็นผู้มีใจไม่ตั้งมั่น
ย่อมปรารถนาว่า คนทั้งหลายพึงรู้เราว่า เป็นผู้มีใจตั้งมั่นเป็นผู้มีปัญญาทราม
ย่อมปรารถนาว่า คนทั้งหลายพึงรู้เราว่า เป็นผู้มีปัญญา เป็นผู้ยังไม่สิ้นอาสวะ
ย่อมปรารถนาว่า คนทั้งหลายพึงรู้เราว่า เป็นผู้สิ้นอาสวะดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าความปรารถนาอันชั่วช้า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความปรารถนาอันชั่วช้า อันบุคคลพึงละด้วยกายไม่ได้ ด้วยวาจาไม่ได้ พึงเห็นชัดด้วยปัญญาแล้วจึงละได้ ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย หากว่าโลภะครอบงำภิกษุนั้นเป็นไป หากว่าโทสะโมหะ โกธะ อุปนาหะ มักขะ ปฬาสะ มัจฉริยะ ความริษยาอันชั่วช้า ความปรารถนาอันชั่วช้า ครอบงำภิกษุนั้นเป็นไป ภิกษุนั้นอันบุคคลพึงรู้อย่างนี้ว่าโลภะย่อมไม่มีแก่ท่านผู้รู้ ฉันใด ท่านผู้มีอายุนี้หารู้ฉันนั้นไม่ เพราะฉะนั้นโลภะจึงครอบงำท่านผู้มีอายุนี้ โทสะ โมหะ ... ความริษยาอันชั่วช้า ความปรารถนาอันชั่วช้า ย่อมไม่มีแก่ท่านผู้รู้ ฉันใด ท่านผู้มีอายุนี้หารู้ฉันนั้นไม่เพราะฉะนั้น โทสะ โมหะ ... ความริษยาอันชั่วช้า ความปรารถนาอันชั่วช้า จึงครอบงำท่านผู้มีอายุนี้ ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย หากว่าโลภะไม่ครอบงำภิกษุนั้นเป็นไป หากว่า โทสะโมหะ ... ความริษยาอันชั่วช้า ความปรารถนาอันชั่วช้า ย่อมไม่ครอบงำภิกษุนั้นเป็นไป ภิกษุนั้นอันบุคคลพึงรู้อย่างนี้ว่า โลภะย่อมไม่มีแก่ท่านผู้รู้ ฉันใด ท่านผู้มีอายุนี้ย่อมรู้ชัด ฉันนั้น เพราะฉะนั้นโลภะจึงไม่ครอบงำท่านผู้มีอายุนี้ โทสะโมหะ ... ความริษยาอันชั่วช้า ความปรารถนาอันชั่วช้า ย่อมไม่มีแก่ท่านผู้รู้ฉันใด ท่านผู้มีอายุนี้ย่อมรู้ ฉันนั้น เพราะฉะนั้นโทสะ โมหะ ... ความริษยาอันชั่วช้า ความปรารถนาอันชั่วช้า จึงไม่ครอบงำท่านผู้มีอายุนี้ ฯ
.........................................................................

“ความริษยา – อันชั่วช้า” “ความปรารถนา – อันชั่วช้า”
อันบุคคลพึงละด้วยกายไม่ได้ ด้วยวาจาไม่ได้ พึงเห็นชัด…ด้วยปัญญาแล้วจึงละได้ ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! ก็…ความริษยา…อันชั่วช้าเป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
คฤหบดีหรือบุตรแห่งคฤหบดีในโลกนี้
ย่อมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์ ข้าวเปลือก เงินหรือทอง
ทาสหรือคนเข้าไปอาศัยของคฤหบดี
หรือบุตรแห่งคฤหบดีผู้ใดผู้หนึ่ง
ย่อมคิดอย่างนี้ว่า…
โอหนอ… คฤหบดีหรือบุตรแห่งคฤหบดีนี้
ไม่พึง…สมบูรณ์ด้วยทรัพย์ ข้าวเปลือก เงินหรือทอง

…อนึ่ง สมณะหรือพราหมณ์
เป็นผู้ได้จีวรบิณฑบาต เสนาสนะ
และเภสัชบริขารอันเป็นปัจจัยแก่คนไข้
สมณะหรือพราหมณ์ผู้ใดผู้หนึ่ง ย่อมคิดอย่างนี้ว่า
โอหนอ… ท่านผู้มีอายุนี้ ไม่พึงได้จีวรบิณฑบาต
เสนาสนะและเภสัชบริขารอันเป็นปัจจัยแก่คนไข้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
นี้เรียกว่า…ความริษยาอันชั่วช้า !
ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
ความริษยาอันชั่วช้า อันบุคคล
พึงละด้วยกายไม่ได้ ด้วยวาจาไม่ได้
พึงเห็นชัด…ด้วยปัญญา…แล้วจึงละได้ ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! ความปรารถนาอันชั่วช้า
อันบุคคลพึงละด้วยกายไม่ได้ ด้วยวาจาไม่ได้
พึงเห็นชัดด้วยปัญญาแล้วจึงละได้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! ก็…ความปรารถนา…อันชั่วช้าเป็นไฉน

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลบางคนในโลกนี้
… …
- เป็นผู้ไม่มีศรัทธา ย่อมปรารถนาว่า
คนทั้งหลายพึงรู้เราว่า เป็นผู้มีศรัทธา

- เป็นผู้ทุศีล ย่อมปรารถนาว่า
คนทั้งหลายพึงรู้ว่าเรา เป็นผู้มีศีล

- เป็นผู้ได้สดับน้อย ย่อมปรารถนาว่า
คนทั้งหลายพึงรู้เราว่า เป็นผู้ได้สดับมาก

- เป็นผู้มีความยินดีในการคลุกคลีด้วยหมู่คณะ
ย่อมปรารถนาว่าคนทั้งหลายพึงรู้เราว่า เป็นผู้ชอบสงัด

- เป็นผู้เกียจคร้าน ย่อมปรารถนาว่า
คนทั้งหลายพึงรู้เราว่า เป็นผู้ปรารภความเพียร

- เป็นผู้มีสติหลงลืม ย่อมปรารถนาว่า
คนทั้งหลายพึงรู้เราว่า เป็นผู้มีสติตั้งมั่น

- เป็นผู้มีใจไม่ตั้งมั่น ย่อมปรารถนาว่า
คนทั้งหลายพึงรู้เราว่า เป็นผู้มีใจตั้งมั่น

- เป็นผู้มีปัญญาทราม ย่อมปรารถนาว่า
คนทั้งหลายพึงรู้เราว่า เป็นผู้มีปัญญา

- เป็นผู้ยังไม่สิ้นอาสวะ ย่อมปรารถนาว่า
คนทั้งหลายพึงรู้เราว่า เป็นผู้สิ้นอาสวะ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
นี้เรียกว่า…ความปรารถนาอันชั่วช้า !
ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
ความปรารถนาอันชั่วช้า
อันบุคคลพึงละด้วยกายไม่ได้ ด้วยวาจาไม่ได้
พึงเห็นชัด…ด้วยปัญญา…แล้วจึงละได้ ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! หากว่า โลภะ ครอบงำภิกษุนั้นเป็นไป
หากว่าโทสะ โมหะ โกธะ อุปนาหะ มักขะ ปฬาสะ มัจฉริยะ …ความริษยาอันชั่วช้า….
ความปรารถนาอันชั่วช้า ครอบงำภิกษุนั้นเป็นไป

ภิกษุนั้น…อันบุคคลพึงรู้อย่างนี้ว่าโลภะ…ย่อมไม่มีแก่ท่านผู้รู้ ฉันใด
ท่านผู้มีอายุนี้…หารู้ฉันนั้นไม่

เพราะฉะนั้น…โลภะ…จึงครอบงำท่านผู้มีอายุนี้ โทสะ โมหะ ...ความริษยาอันชั่วช้า ความปรารถนาอันชั่วช้าย่อมไม่มีแก่ท่านผู้รู้ ฉันใด ท่านผู้มีอายุนี้หารู้ฉันนั้นไม่

เพราะฉะนั้น โทสะ โมหะ ... ความริษยาอันชั่วช้าความปรารถนาอันชั่วช้าจึงครอบงำท่านผู้มีอายุนี้ ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! หากว่าโลภะไม่ครอบงำภิกษุนั้นเป็นไปหากว่า โทสะ โมหะ ... ความริษยาอันชั่วช้า ความปรารถนาอันชั่วช้า ย่อมไม่ครอบงำภิกษุนั้นเป็นไป

ภิกษุนั้นอันบุคคลพึงรู้อย่างนี้ว่าโลภะย่อมไม่มีแก่ท่านผู้รู้ ฉันใด ท่านผู้มีอายุนี้ย่อมรู้ชัด ฉันนั้น

เพราะฉะนั้นโลภะจึงไม่ครอบงำท่านผู้มีอายุนี้ โทสะโมหะ ...ความริษยาอันชั่วช้า ความปรารถนาอันชั่วช้า ย่อมไม่มีแก่ท่านผู้รู้ฉันใด ท่านผู้มีอายุนี้ย่อมรู้ ฉันนั้นเพราะฉะนั้นโทสะ โมหะ ... ความริษยาอันชั่วช้าความปรารถนาอันชั่วช้า จึงไม่ครอบงำท่านผู้มีอายุนี้ ฯ


 
 
พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์