|
(ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์ หน้า 240)
ช้างนาบุญ
ภิกษุท. ช้างหลวงที่ประกอบด้วยองค์ห้า ย่อมเป็นช้างคู่ควรแก่พระราชา เป็นโภคะประจำองค์พระราชา นับว่าเป็นองค์อวัยวะของพระราชา.
องค์ห้าอะไรบ้างเล่า ? องค์ห้า คือช้างหลวงในกรณีนี้เป็นช้างที่
อดทนต่อรูป ทั้งหลาย (1)
อดทนต่อเสียง ทั้งหลาย (2)
อดทนต่อกลิ่น ทั้งหลาย (3)
อดทนต่อรส ทั้งหลาย (4)
อดทนต่อโผฏฐัพพะ ทั้งหลาย (5)
ภิกษุท. ช้างหลวงที่อดทนต่อรูปทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุท. ในกรณีนี้ช้างหลวงเมื่อออกศึก ได้เห็นหมู่พลช้างก็ดี หมู่พลม้าก็ดี หมู่พลรถก็ดี หมู่พลราบก็ดี (ของฝ่ายข้าศึก)แล้ว ก็ไม่ระย่อ ห่อหด ย่อมยืนหยัด ย่อมอาจที่จะเข้าสู่การรบได้. ภิกษุท. ช้างหลวงอย่างนี้ชื่อว่า อดทนต่อรูปทั้งหลาย.
ภิกษุท. ช้างหลวงที่อดทนต่อเสียงทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุท. ในกรณีนี้ช้างหลวงเมื่อออกศึก ได้ยินเสียงหมู่พลช้างก็ดี หมู่พลม้า ก็ดี หมู่พลรถก็ดี หมู่พลราบก็ดี ได้ยินเสียงกึกก้องแห่งกลอง บัณเฑาะว์สังข์ และมโหระทึกก็ดี, แล้วก็ไม่ระย่อ ห่อหด ย่อมยืนหยัด ย่อมอาจที่จะเข้าสู่การรบได้. ภิกษุท. ช้างหลวงอย่างนี้ชื่อว่า อดทนต่อเสียงทั้งหลาย.
ภิกษุท. ช้างหลวงที่อดทนต่อกลิ่นทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุท. ในกรณีนี้ช้างหลวงเมื่อออกศึก ได้กลิ่นมูตรและกรีส (ปัสสาวะและ อุจจาระ) ของช้างทั้งหลาย ชนิดที่เป็นชั้นจ่าเจนสงครามเข้าแล้ว ก็ไม่ระย่อ ห่อหด ย่อมยืนหยัด ย่อมอาจที่จะเข้าสู่การรบได้. ภิกษุท. ช้างหลวงอย่างนี้ชื่อว่า อดทนต่อกลิ่นทั้งหลาย.
ภิกษุท. ช้างหลวงที่อดทนต่อรสทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุท. ในกรณีนี้ช้างหลวงเมื่อออกศึก เมื่อไม่ได้รับการทอดหญ้าและนํ้า มื้อหนึ่ง หรือสองมื้อ สามมื้อ สี่มื้อ หรือห้ามื้อ ก็ไม่ระย่อ ห่อหด ย่อม ยืนหยัด ย่อมอาจที่จะเข้าสู่การรบได้. ภิกษุท. ช้างหลวงอย่างนี้ชื่อว่า อดทนต่อรสทั้งหลาย.
ภิกษุท. ช้างหลวงที่อดทนต่อโผฏฐัพพะทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุท. ในกรณีนี้ช้างหลวงเมื่อ ออกศึก ถูกศรที่เขายิงมาอย่างแรงเข้า หนึ่งลูก หรือสองลูก สามลูก สี่ลูก หรือห้าลูก ก็ไม่ระย่อ ห่อหด ย่อมยืนหยัด ย่อมอาจที่จะเข้าสู่การรบได้. ภิกษุท. ช้างหลวงอย่างนี้ชื่อว่า อดทนต่อ โผฏฐัพพะทั้งหลาย.
ภิกษุท. ฉันใดก็ฉันนั้นเหมือนกัน ภิกษุเมื่อประกอบด้วยเหตุห้าอย่างแล้ว ย่อมเป็นผู้ที่น่าบูชาด้วยของที่จัด ไว้บูชา น่าต้อนรับด้วยของที่จัดไว้ต้อนรับ น่ารับทักษิณาทานที่อุทิศเพื่อผู้ตาย น่าไหว้ และเป็น เนื้อนาบุญชั้นดีเยี่ยม ของโลก.
เหตุห้าอย่างอะไรบ้างเล่า ? ห้าอย่าง คือเป็นผู้
อดทนต่อรูปทั้งหลาย
อดทนต่อเสียงทั้งหลาย
อดทนต่อกลิ่นทั้งหลาย
อดทนต่อรสทั้งหลาย
อดทนต่อโผฏฐัพพะทั้งหลาย.
ภิกษุท. ภิกษุเป็นผู้อดทนต่อรูปทั้งหลายเป็นอย่างไรเล่า? ภิกษุ ท. ภิกษุในธรรมวินัยนี้ได้เห็นรูปด้วยตาแล้ว ไม่กำหนัดย้อมใจ ในรูป อันเป็นที่ตั้งแห่ง ความกำหนัด ย่อมสามารถที่จะดำรงจิตให้เป็นปกติอยู่ได้. ภิกษุท. ภิกษุอย่างนี้ชื่อว่า อดทนต่อรูปทั้งหลาย.
ภิกษุท. ภิกษุเป็นผู้อดทนต่อเสียงทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ภิกษุในธรรมวินัยนี้ได้ฟังเสียงด้วยหูแล้ว ไม่กำหนัดย้อมใจ ในเสียง อันเป็นที่ตั้งแห่ง ความกำหนัด ย่อมสามารถที่จะดำรงจิตให้เป็นปกติอยู่ได้. ภิกษุท. ภิกษุอย่างนี้ชื่อว่า อดทนต่อเสียงทั้งหลาย.
ภิกษุท. ภิกษุเป็นผู้อดทนต่อกลิ่นทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุท. ภิกษุในธรรมวินัยนี้ได้ดมกลิ่นด้วยจมูกแล้ว ไม่กำหนัดย้อมใจในกลิ่น อันเป็นที่ตั้งแห่ง ความกำหนัด ย่อมสามารถที่จะดำรงจิตให้เป็นปกติอยู่ได้. ภิกษุท. ภิกษุอย่างนี้ชื่อว่า อดทนต่อกลิ่นทั้งหลาย.
ภิกษุท. ภิกษุเป็นผู้อดทนต่อรสทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุท. ภิกษุในธรรมวินัยนี้ได้ลิ้มรสด้วยลิ้นแล้ว ไม่กำหนัดย้อมใจในรส อันเป็นที่ตั้งแห่งความ กำหนัด ย่อมสามารถที่จะดำรงจิตให้เป็นปกติอยู่ได้. ภิกษุท. ภิกษุอย่างนี้ชื่อว่า อดทนต่อรสทั้งหลาย.
ภิกษุท. ภิกษุเป็นผู้อดทนต่อโผฏฐัพพะทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุท. ภิกษุในธรรมวินัยนี้ได้สัมผัสโผฏฐัพพะด้วยกายแล้ว ไม่กำหนัด ย้อมใจในโผฏฐัพพะ อันเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด ย่อมสามารถที่จะดำรงจิตให้เป็น ปกติอยู่ได้. ภิกษุท. ภิกษุอย่างนี้ชื่อว่า อดทนต่อโผฏฐัพพะทั้งหลาย.
ภิกษุท. ภิกษุเมื่อประกอบด้วยเหตุห้าอย่างเหล่านี้แล้ว ย่อมเป็น ผู้ที่น่าบูชา ด้วยของที่จัดไว้บูชา น่าต้อนรับ ด้วยของที่จัดไว้ต้อนรับ น่ารับ ทักษิณาทานที่อุทิศ เพื่อผู้ตาย น่าไหว้ และเป็นเนื้อนาบุญชั้นดีเยี่ยมของโลก แล
|