|
ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์ หน้า29
ผู้ถูกฉุดรอบด้าน
(ทรงอุปมาอายะตนะทั้ง6 ไม่ต่างกับจับสัตว์ 6ชนิด มาผูกกับเสาหลัก)
ภิกษุ ท. ! ภิกษุผู้ไม่มีสังวรนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้เมื่อเห็นรูปด้วยตา ฟังเสียงด้วยหู ดมกลิ่นด้วยจมูก ลิ้มรสด้วยลิ้น สัมผัสโผฏฐัพพะด้วยกาย รู้ธรรมารมณ์ด้วยใจ ก็สยบอยู่ในอารมณ์ที่น่ารัก เคียดแค้นในอารมณ์อันไม่น่ารัก เป็นผู้ไม่ตั้งไว้ซึ่งกายคตา-สติ มีจิตอยู่ด้วย คุณธรรม ไม่รู้ตามเป็นจริงซึ่งเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ อันเป็นที่ดับแห่งบาป อกุศลที่เกิด แล้ว แก่เขานั้น โดยสิ้นเชิง.
ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนบุรุษจับสัตว์หกชนิด อันมีที่อยู่อาศัยต่างกัน มีที่เที่ยวหากินต่างกัน มาผูกรวมกันด้วยเชือกอันมั่นคง คือเขาจับงูมาผูกด้วย เชือกเหนียวเส้นหนึ่ง จับจระเข้ จับนก จับสุนัข บ้าน จับสุนัขจิ้งจอก, จับลิง มาผูกด้วยเชือกเหนียวเส้นหนึ่ง ๆ แล้วผูกรวมเข้าด้วยกันเป็น ปมเดียว ในท่ามกลาง ปล่อยแล้ว. ภิกษุ ท. ! ครั้งนั้น สัตว์เหล่านั้น ทั้งหกชนิด มีที่อาศัย และที่เที่ยวต่าง ๆ กัน ก็ยื้อแย่งฉุดดึงกัน เพื่อจะไปสู่ที่อาศัยที่เที่ยวของตน ๆ
งูจะเข้าจอมปลวก จระเข้จะลงนํ้า นกจะบินขึ้นไปในอากาศ สุนัข จะเข้าบ้าน สุนัขจิ้งจอก จะไปป่าช้า ลิงก็จะไปป่า. ครั้นเหนื่อยล้ากัน ทั้งหกสัตว์แล้ว สัตว์ใดมีกำลังกว่า สัตว์นอกนั้นก็ต้อง ถูกลาก ติดตามไปตาม อำนาจของสัตว์นั้น. ข้อนี้ฉันใด
ภิกษุท. ! ภิกษุใดไม่อบรมทำให้มากในกายคตาสติแล้ว
ตา ก็จะฉุด เอาภิกษุนั้นไปหารูปที่น่าพอใจ
รูปที่ไม่น่าพอใจ ก็กลายเป็นสิ่งที่เธอรู้สึกอึดอัดขยะแขยง
หู ก็จะฉุดเอาภิกษุนั้นไปหาเสียงที่น่าฟัง,
เสียงที่ไม่น่าฟังก็กลาย เป็นสิ่งที่เธอรู้สึกอึดอัดขยะแขยง
จมูก ก็จะฉุดเอาภิกษุนั้นไปหากลิ่นที่น่าสูดดม
กลิ่นที่ไม่น่าสูดดม ก็กลายเป็นสิ่งที่เธอรู้สึกอึดอัด ขยะแขยง
ลิ้น ก็จะฉุดเอา ภิกษุนั้นไปหารสที่ชอบใจ
รสที่ไม่ชอบใจ ก็กลาย เป็นสิ่งที่เธอรู้สึกอึดอัดขยะแขยง
กาย ก็จะฉุดเอา ภิกษุนั้นไปหาสัมผัสที่ยั่วยวนใจ
สัมผัสที่ไม่ยั่วยวนใจ ก็กลายเป็นสิ่งที่เธอรู้สึกอึดอัด ขยะแขยง
และ ใจ ก็จะฉุดเอาภิกษุนั้นไปหาธรรมารมณ์ที่ถูกใจ
ธรรมารมณ์ที่ไม่ถูกใจ ก็กลายเป็นสิ่งที่เธอรู้สึก อึดอัด ขยะแขยง ข้อนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน.
ภิกษุท. ! ภิกษุผู้ไม่มีสังวรเป็นอย่างนี้แล.
|