ปฏิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์ หน้า 123 ปฏิจจสมุปบาท มี เมื่อมีการกระทบทางอายตนะ (ทั้ง 6) เพราะอาศัยซึ่งจักษุ ด้วย ซึ่งรูปทั้งหลายด้วย จึงเกิดจักขุวิญญาณ การประจวบพร้อม แห่งธรรม ๓ ประการนี้ คือ ผัสสะ เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา เพราะมีเวทนาเป็น ปัจจัย จึงมีตัณหา เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน เพราะมีอุปาทานเป็น ปัจจัยจึง มีภพ เพราะมีภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ เพราะมีชาติเป็นปัจจัยชรามรณะ โสกะปริเทวะ ทุกขะ โทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. เพราะอาศัยซึ่งโสตะด้วย ซึ่งเสียงทั้งหลายด้วย จึงเกิดโสตวิญญาณ การประจวบ พร้อมแห่งธรรม ๓ ประการนี้ คือผัสสะ เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา ...ฯลฯ... ๑ ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. เพราะอาศัยซึ่งฆานะด้วย ซึ่งกลิ่นทั้งหลายด้วย จึงเกิดฆานวิญญาณ การประจวบพร้อม แห่งธรรม ๓ ประการนี้ คือผัสสะ เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา ...ฯลฯ... ความเกิด ขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. เพราะอาศัยซึ่งชิวหาด้วย ซึ่งรสทั้งหลายด้วย จึงเกิดชิวหาวิญญาณ การประจวบพร้อม แห่งธรรม ๓ ประการนี้ คือผัสสะ เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา..ฯลฯ..ความเกิดขึ้น พร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. เพราะอาศัยซึ่งกายะด้วย ซึ่งโผฏฐัพพะทั้งหลายด้วย จึงเกิดกายวิญญาณ การประจวบ พร้อมแห่งธรรม ๓ ประการนี้ คือผัสสะ เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา ...ฯลฯ... ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. เพราะอาศัยซึ่งมโนด้วย ซึ่งธัมมารมณ์ทั้งหลายด้วย จึงเกิดมโนวิญญาณ การประจวบ พร้อมแห่งธรรม ๓ ประการนี้ คือผัสสะ เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา เพราะมีเวทนา เป็นปัจจัย จึงมีตัณหา เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน เพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ เพราะมีภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ เพราะมีชาติเป็น ปัจจัย ชรามรณะโสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.