(โดยย่อ)
พระผู้มีพระภาคเทศนาเรื่อง ธาตุวิภังค์ (ธาตุ๖) ให้กับ ปุกกุสาติ ที่บ้านของช่างปั้นหม้อ
ดูกรภิกษุ คนเรานี้มีธาตุ ๖ มีแดนสัมผัส ๖ มีความหน่วงนึกของใจ ๑๘
มีธรรมที่ควรตั้งไว้ในใจ ๔ อันเป็น
ธรรมที่ผู้ตั้งอยู่แล้ว
ลำดับการเทศนา
ธรรมเทศนา เรื่องธาตุ ๖
ธรรมเทศนา เรื่องผัสสะ ๖
ธรรมเทศนา เรื่องความหน่วงนึกของใจ ๑๘
ธรรมเทศนา แจกแจง เรื่องธาตุ ๖ อย่างละเอียด
ธรรมเทศนา เรื่อง เวทนา
ธรรมเทศนา แจกแจง เรื่อง เวทนา อันมีผัสสะเป็นปัจจัย
ธรรมเทศนา อรูปสัญญา เมื่ออุเบกขาผุดผ่องบริสุทธิ์ จิตย่อมน้อมไปสู่อากาสา
รู้ชัดว่า จิตนี้เป็นสังขตะ
ธรรมที่ควรตั้งไว้ในใจ ๔ (ปัญญา สัจจะ จาคะ มีอุปสมะ)
บุคคลจะไม่คำนึง ไม่คิดถึงความเจริญ ไม่คิดถึงความเสื่อม ไม่ยึดมั่นอะไรๆในโลก
ย่อมไม่หวาดเสียว เมื่อไม่หวาดเสียว ย่อมปรินิพพานเฉพาะตนทีเดียว
ย่อมทราบชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว
กิจอื่นเพื่อความเป็น อย่างนี้มิได้มี
เขาเมื่อเสวยเวทนา มีกายเป็นที่สุด ย่อมรู้สึกว่ากำลังเสวยเวทนา มีกายเป็นที่สุด
เมื่อเสวยเวทนา มีชีวิตเป็นที่สุด ย่อมรู้สึกว่ากำลังเสวยเวทนา มีชีวิตเป็นที่สุด
.....ฯลฯ
หลังจากปุกกุสาติ สดับรับฟังมาโดยตลอด จึงทราบแน่ชัดว่า ผู้ที่กำลังเทศนาอยู่นี้ คือ พระพุทธเจ้า แน่นอน จึงลุกจากอาสนะ
ทำจีวรเฉวียงบ่าข้างหนึ่ง ซบเศียรลงแทบพระยุคลบาท และขอบวชใน พุทธศาสนาทันใดนั้นแล แม่โคได้ปลิดชีพท่านปุกกุสาติ ผู้กำลังเที่ยวหา บาตรจีวรอยู่ ...
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปุกกุสาติกุลบุตร เป็นผู้เข้าถึง อุปปาติกเทพ เพราะสิ้นสัญโญชน์
อันเป็นส่วน เบื้องต่ำ ๕ (อนาคามี) เป็นอันปรินิพพานในโลกนั้น มีความไม่กลับมาจากโลกนั้นอีก
|