|
(โดยย่อ)
ผู้มีราตรีหนึ่งเจริญ
บุคคลไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงแล้ว
ไม่ควรมุ่งหวังสิ่ง ที่ยังไม่มาถึง
สิ่งใดล่วงไปแล้ว สิ่งนั้นก็เป็น อันละไปแล้ว
และสิ่งที่ยังไม่มาถึง ก็เป็นอันยังไม่ถึง
(1) ก็บุคคลย่อม คำนึงถึงสิ่งที่ล่วงแล้ว อย่างไร
คือรำพึงถึงความเพลิดเพลินในเรื่องนั้นๆว่า ในกาลที่ล่วงไปแล้ว เราได้มีรูปอย่างนี้ ได้มีเวทนา ได้มีสัญญา ได้มีสังขาร ได้มีวิญญาณอย่างนี้
(ส่วนบุคคลที่ไม่คำนึงถึงสิ่งที่ล่วงแล้ว จะคิดตรงกันข้าม)
(2) ก็บุคคลย่อม มุ่งหวังสิ่งที่ยังไม่มาถึง อย่างไร
คือรำพึงถึงความเพลิดเพลินในเรื่องนั้นๆ ว่าในกาลอนาคต ขอเราพึงมีรูปอย่างนี้ มีเวทนาอย่างนี้ มีสัญญาอย่างนี้ มีสังขารอย่างนี้ มีวิญญาณอย่างนี้
(ส่วนบุคคลที่ไม่มุ่งหวังสิ่งที่ยังมาไม่ถึง จะคิดตรงกันข้าม)
(3) ก็บุคคลย่อม ง่อนแง่นในธรรมปัจจุบัน อย่างไร
คือ ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับแล้วในโลกนี้
เป็นผู้ไม่ได้เห็น ไม่ฉลาด ไม่ได้ฝึกธรรม ของพระอริยะ
ไม่ได้เห็น ไม่ฉลาด ไม่ได้ฝึกในธรรม ของสัตบุรุษ
ย่อมเล็งเห็นรูป โดยความเป็นอัตตา
ย่อมเล็งเห็นอัตตาว่ามีรูป เห็นรูปในอัตตา เห็นอัตตาในรูป
ย่อมเล็งเห็นเวทนา เห็นสัญญา เห็นสังขาร เห็นวิญญาณ โดยความเป็นอัตตา
ย่อมเล็งเห็นอัตตาว่ามีวิญญาณ เห็นวิญญาณในอัตตาบ้าง เห็นอัตตาในวิญญาณ
(ส่วนบุคคลที่ไม่ง่อนแง่นในธรรมปัจจุบัน จะคิดตรงกันข้าม) |
|