เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่ พุทธวจน คำสอนของพระศาสดา คำสอนตถาคต รวมพระสูตรสำคัญ อนาคามี เว็บไซต์เผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้า
ค้นหาคำที่ต้องการ            

 
นางอัมพปาลี หญิงงามเมือง ทำภัตตาหาร และถวายสวนป่า แด่พระผู้มีพระภาค 1339
 

(โดยย่อ)

หญิงงามเมืองถวายภัตตาหาร แด่พระผู้มีพระภาค และถวายสวนป่าให้เป็นสังฆาราม
นางอัมพปาลี หญิงงามเมือง เข้าเฝ้าฯ จัดเตรียม ภัตตาหาร พร้อมของเคี้ยวของฉัน ขอถวายแด่ พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคทรงรับอาราธนา โดยดุษณีภาพ

นางได้กราบทูลคำนี้ แด่พระผู้มีพระภาคว่า หม่อมฉันขอถวาย สวนอัมพปาลีวัน นี้ แก่ภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้า เป็นประมุข พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาค ทรงรับ เป็นสังฆารามแล้ว

นางอัมพปาลี หญิงงามเมือง ทำภัตตาหารถวาย 2 ครั้ง
ครั้งที่ 1 ที่เมืองเวสาลี
ครั้งที่ 2 ที่เมืองนาทิกา (หลังภัตแล้วได้ถวายสวนป่าอัมพปาลีวัน เพื่อเป็นสังฆาราม )



เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน

 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๕ หน้าที่ ๗๖

เรื่องเจ้าลิจฉวีชาวพระนครเวสาลี


               [๗๗] นางอัมพปาลี หญิงงามเมือง ได้ทราบข่าวว่า พระผู้มีพระภาค เสด็จมาโดยลำดับ ถึงตำบลบ้านโกฏิแล้ว จึงให้จัดยวดยานที่งามๆ แล้วขึ้นสู่ ยวดยานที่งามๆ มียวดยานที่งามๆ ออกไปจาก พระนครเวสาลี เพื่อเฝ้าพระผู้มี พระภาค ไปด้วยยวดยานตลอดพื้นที่ ที่ยวดยานจะไปได้แล้ว ลงจากยวดยาน เดินด้วยเท้า เข้าไปถึงพุทธสำนัก ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว ได้นั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พระผู้มีพระภาคทรง ชี้แจงให้นางเห็นแจ้ง สมาทาน อาจหาญ ร่าเริงด้วยธรรมีกถา

        ครั้นนางอัมพปาลีคณิกา อันพระผู้มีพระภาคทรงชี้แจงให้เห็นแจ้ง สมาทาน อาจหาญร่าเริง ด้วยธรรมีกถาแล้ว ได้กราบทูลคำนี้ แด่พระผู้มีพระภาคว่า ขอ พระผู้มีพระภาค พร้อมด้วยพระสงฆ์ ทรงพระกรุณา โปรดรับภัตตาหาร ของหม่อมฉัน เพื่อเจริญบุญกุศล และปิติปราโมทย์ในวันพรุ่งนี้ พระผู้มีพระภาคทรงรับอาราธนา โดยดุษณีภาพ (ถวายภัตครั้งแรก ที่นครเวลาลี) ครั้นนางทราบพระอาการ ที่ทรงรับ อาราธนาแล้ว ลุกจากที่นั่ง ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค ทำประทักษิณแล้วกลับไป.

        พวกเจ้าลิจฉวี ชาวพระนครเวสาลี ได้ทรงสดับข่าวว่า พระผู้มีพระภาคเสด็จมา โดยลำดับ ถึงตำบลบ้านโกฏิแล้ว จึงพากันจัดยวดยานที่งามๆ เสด็จขึ้นสู่ยวดยาน ที่งามๆ มียวดยานที่งามๆ ออกไปจากพระนครเวสาลี เพื่อเฝ้าพระผู้มีพระภาค

        เจ้าลิจฉวี บางพวกเขียว คือมีพระฉวีเขียว ทรงวัตถาลังการเขียว (ครื่องประดับ) บางพวกเหลือง คือ มีพระฉวีเหลือง(ผิวหนัง) ทรงวัตถาลังการเหลือง บางพวกแดงคือ มีพระฉวีแดง ทรงวัตถาลังการแดง บางพวกขาว คือ มีพระฉวีขาว ทรงวัตถาลังการ ขาว

        ขณะนั้น นางอัมพปาลีคณิกา ทำให้งอนรถกระทบงอนรถ แอกกระทบแอก ล้อกระทบล้อ เพลากระทบเพลา ของเจ้าลิจฉวีหนุ่มๆ จึงเจ้าลิจฉวีเหล่านั้น ได้ตรัสถามนางว่า แม่อัมพปาลี เหตุไฉนเธอจึงได้ทำให้งอน รถกระทบงอนรถ แอกกระทบแอก ล้อกระทบล้อ เพลากระทบเพลา ของเจ้าลิจฉวีหนุ่มๆ ของพวกเราเล่า?

        อัม. จริงอย่างนั้น พ่ะยะค่ะ เพราะหม่อมฉันได้นิมนต์ภิกษุสงฆ์ มีระพุทธเจ้า เป็นประมุข เพื่อเจริญบุญกุศล และปิติปราโมทย์ในวันพรุ่งนี้.

        ลิจ. แม่อัมพปาลี เธอจงให้ภัตตาหารมื้อนี้แก่พวกฉัน ด้วยราคาแสนกษาปณ์ เถิด (ขอซื้อ)

        อัม. แม้ว่าฝ่าพระบาท จึงพึงประทาน พระนครเวสาลี พร้อมทั้งชนบท แก่หม่อมฉัน หม่อมฉัน ก็ถวายภัตตาหารมื้อนั้นไม่ได้ พ่ะยะค่ะ

(เจ้าลิจฉวีต้องการขอซื้ออาหารของอัมพปาลี ที่เตรียมไว้ถวายพระผู้มีพระภาค แต่นางก็ไม่ ยอมถวายขายให้เจ้าลิจฉวี แม้จะขอซื้อด้วยราคาสูง หรือแม้จะยกนครเวสาลีให้ก็ไม่เอา- นี่คือความศรัทธาตั้งมั่น ของหญิงงามเมือง ที่มีต่อพระผู้มีพระภาค)

        จึงเจ้าลิจฉวีเหล่านั้น ได้ทรงดีดพระองคุลีตรัสว่า ท่านทั้งหลาย พวกเราแพ้ แม่อัมพปาลีแล้ว ท่านทั้งหลาย พวกเราแพ้แม่อัมพปาลีแล้ว จึงพากันเข้าไปเฝ้า พระผู้มีพระภาค.

        พระผู้มีพระภาค ได้ทอดพระเนตรเห็นเจ้าลิจฉวีเหล่านั้น กำลังเสด็จมาแต่ไกล ครั้นแล้วรับสั่ง กะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่าใดไม่เคยเห็น เทพเจ้า ชั้นดาวดึงส์ ก็จงแลดู พวกเจ้าลิจฉวี พิจารณาดู เทียบเคียงดู พวกเจ้าลิจฉวี กับพวกเทพเจ้าชั้นดาวดึงส์เถิด จึงเจ้าลิจฉวี เหล่านั้น ได้เสด็จไปด้วยยวดยาน ตลอดพื้นที่ ที่ยวดยานจะไปได้ แล้วเสด็จลงจากยวดยาน ทรงดำเนิน ด้วยพระบาท เข้าไปถึงพุทธสำนัก ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว ประทับนั่งอยู่ ณ ที่ควร ส่วนข้างหนึ่ง

        พระผู้มีพระภาค ทรงชี้แจงให้เจ้าลิจฉวีเหล่านั้น ทรงเห็นแจ้งสมาทาน อาจหาญ ร่าเริงด้วยธรรมีกถา จึงเจ้าลิจฉวีเหล่านั้น อันพระผู้มีพระภาคทรงชี้แจง ให้เห็นแจ้ง สมาทาน อาจหาญ ร่าเริงด้วยธรรมีกถาแล้ว ได้กราบทูลอาราธนา พระผู้มีพระภาคว่า ขอพระองค์พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ ทรงพระกรุณา โปรดรับภัตตาหาร ของพวกข้าพระพุทธเจ้า เพื่อเจริญบุญกุศล และปิติปราโมทย์ ในวันพรุ่งนี้ด้วยเถิด พระพุทธเจ้าข้า.

        พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรลิจฉวีทั้งหลาย อาตมารับนิมนต์ฉันภัตตาหาร ของนางอัมพปาลีคณิกา เพื่อเจริญบุญกุศล และปิติปราโมทย์ ในวันพรุ่งนี้แล้ว.

        เจ้าลิจฉวีเหล่านั้น ทรงดีดองคุลี แล้วตรัสในทันใดนั้นว่า ท่านทั้งหลาย พวกเราแพ้ นางอัมพปาลีคณิกาแล้ว ท่านทั้งหลาย พวกเราแพ้ นางอัมพปาลีคณิกา แล้ว และได้ทรงเพลิดเพลิน ยินดีตามภาษิตของพระผู้มีพระภาค เสด็จลุกจาก ที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค ทรงทำ ประทักษิณ แล้วเสด็จกลับ.

นางอัมพปาลี ถวายอัมพปาลีวัน (สวนป่า)

        ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ตำบลบ้านโกฏิ ตามพระพุทธาภิรมย์ แล้ว เสด็จพระพุทธดำเนิน ไปทางเมืองนาทิกา ทราบว่าพระองค์ประทับอยู่ที่ พระตำหนักตึก เขตเมืองนาทิกา นั้น.

        ส่วนนางอัมพปาลีคณิกา สั่งให้ตกแต่งของเคี้ยวของฉันอันประณีต ในสวน ของตน โดยผ่านราตรีนั้น แล้วให้คนไปกราบทูลภัตกาล แด่พระผู้มีพระภาคว่า ถึงเวลาแล้ว พระพุทธเจ้าข้า ภัตตาหารเสร็จแล้ว. (ถวายภัตครั้งที่ 2 เมือง นาทิกา)

        ขณะนั้นเป็นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาค ทรงครองอันตรวาสกแล้ว ถือบาตรจีวร เสด็จพระพุทธดำเนิน ไปสู่สถานที่อังคาสของ นางอัมพปาลีคณิกา

        ครั้นถึงแล้ว ประทับนั่งเหนือพระพุทธอาสน์ ที่เขาจัดถวาย พร้อมด้วย ภิกษุสงฆ์ จึงนางอัมพปาลีคณิกา อังคาสภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ด้วย ขาทนียโภชนียาหาร อันประณีตด้วยมือของตน จนพระผู้มีพระภาคเสวยเสร็จแล้ว ทรงนำพระหัตถ์ออกจากบาตร ห้ามภัตรแล้ว ได้นั่งเฝ้าอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง นางได้กราบทูล คำนี้ แด่พระผู้มีพระภาคว่า หม่อมฉันขอถวาย สวนอัมพปาลีวันนี้ แก่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้า เป็นประมุข พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาค ทรงรับ เป็นสังฆารามแล้ว

        ครั้นแล้ว พระองค์ทรงชี้แจงให้ นางอัมพปาลี เห็นแจ้งสมาทาน อาจหาญ ร่าเริง ด้วยธรรมีกถา เสร็จลุกจากพระพุทธอาสน์แล้ว เสด็จพระพุทธดำเนิน ไปทางป่า มหาวัน ทราบว่าพระองค์ประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน เขตพระนครเวสาลี นั้น.

เรื่องเจ้าลิจฉวีชาวพระนครเวสาลี จบ.


 






พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์