พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ หน้าที่ ๒๕๐
นิทานสูตรที่ ๒
[๕๕๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมชาติ ๓ อย่างนี้ เป็นเหตุให้เกิดกรรม ๓ อย่างเป็นไฉน คือ
ความพอใจย่อมเกิดเพราะปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอดีต ๑
ความพอใจย่อมเกิดเพราะปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอนาคต ๑
ความพอใจย่อมเกิดเพราะปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในปัจจุบัน ๑
ความพอใจย่อมเกิดเพราะปรารภธรรม
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ความพอใจย่อมเกิดเพราะปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่ง ฉันทราคะ ในอดีตอย่างไร
ดูกรภิกษุทั้งหลายบุคคลปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่ง ฉันทราคะในอดีต ตรึกตรอง ตามด้วยใจ เมื่อเขาปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่ง ฉันทราคะในอดีต ตรึกตรองตามอยู่ด้วยใจ ย่อมเกิดความพอใจ ผู้ที่เกิด ความพอใจแล้ว ย่อมประกอบด้วยธรรมเหล่านั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าว ความกำหนัด แห่งใจนั้นว่าเป็นสังโยชน์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความพอใจย่อมเกิด เพราะปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะ ในอดีต อย่างนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลายก็ความพอใจย่อมเกิดเพราะปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่ง ฉันทราคะ ในอนาคตอย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลปรารภธรรม อันที่ตั้งแห่ง ฉันทราคะในอนาคต ตรึกตรอง ตามด้วยใจ เมื่อเขาปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่ง ฉันทราคะในอนาคต ตรึกตรองตาม อยู่ด้วยใจ ย่อมเกิดความพอใจ ผู้ที่เกิดความ พอใจแล้ว ย่อมประกอบด้วยธรรมเหล่านั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวความ กำหนัด แห่งใจนั้นว่าเป็นสังโยชน์ ดูกรภิกษุทั้งหลายความพอใจ ย่อมเกิดเพราะ ปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะ ในอนาคตอย่างนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ความพอใจย่อมเกิด เพราะปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่ง ฉันทราคะ ในปัจจุบันอย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลปรารภธรรม อันเป็น ที่ตั้ง แห่งฉันทราคะในปัจจุบัน ตรึกตรองตามด้วยใจเมื่อเขาปรารภธรรม อันเป็น ที่ตั้งแห่งฉันทราคะในปัจจุบัน ตรึกตรองตามอยู่ด้วยใจ ย่อมเกิดความพอใจ ผู้ที่เกิด ความพอใจแล้ว ย่อมประกอบด้วยธรรมเหล่านั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลายเรากล่าวความกำหนัดแห่งใจนั้นว่าเป็นสังโยชน์
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความพอใจย่อมเกิด เพราะปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะ ในปัจจุบันอย่างนี้แล
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมชาติ ๓ อย่างนี้แลเป็นเหตุให้เกิดกรรม
ดูกรภิกษุทั้งหลายธรรมชาติ ๓ อย่างนี้เป็นเหตุให้เกิดกรรม ๓ อย่างเป็นไฉน คือ
ความพอใจย่อมไม่เกิดเพราะปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอดีต ๑
ความพอใจย่อมไม่เกิดเพราะปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอนาคต ๑
ความพอใจย่อมไม่เกิดเพราะปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในปัจจุบัน ๑
ความพอใจย่อมไม่เกิด เพราะปรารภธรรม
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ความพอใจย่อมไม่เกิดเพราะปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่ง ฉันทราคะ ในอดีตอย่างไร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลรู้ชัดซึ่งวิบากต่อไปของธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่ง ฉันทราคะ ในอดีต ครั้นแล้วละเว้นวิบากนั้นเสีย ครั้นแล้วฟอกด้วยใจ เห็นตลอดด้วยปัญญา ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความพอใจย่อมไม่เกิด เพราะ ปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่ง ฉันทราคะในอดีตอย่างนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ความพอใจ ย่อมไม่เกิด เพราะปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่ง ฉันทราคะ ในอนาคตอย่างไร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลรู้ชัดซึ่งวิบากต่อไป ของธรรม อันเป็นที่ตั้งฉันทราคะ ในอนาคต ครั้นแล้วละเว้นวิบากนั้นเสีย ครั้นแล้ว ฟอกด้วยใจ เห็นตลอดด้วยปัญญา ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความพอใจย่อมไม่เกิด เพราะปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่ง ฉันทราคะ ในอนาคตอย่างนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ความพอใจย่อมไม่เกิด เพราะปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่ง ฉันทราคะ ในปัจจุบันอย่างไร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลรู้ชัดซึ่งวิบากต่อไป ของธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะ ในปัจจุบัน ครั้นแล้วละเว้นวิบากนั้นเสีย ครั้นแล้วฟอกด้วยใจ เห็นตลอดด้วยปัญญา ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความพอใจย่อม ไม่เกิด เพราะปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่ง ฉันทราคะ ในปัจจุบัน อย่างนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมชาติ ๓ อย่างนี้แล เป็นเหตุให้เกิดกรรม ฯ
|