คำสอนของตถาคต ไม่ติ ไม่ขัดแย้ง กับลัทธิอื่น เราเห็นบุคคลผู้ประพฤติ ตบะ มีอาชีพเศร้าหมอง บางคนในโลกนี้ เบื้องหน้าแต่ ตายเพราะกายแตก เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ด้วยทิพยจักษุอัน บริสุทธิ์ ล่วงจักษุมนุษย์ก็มี เราเห็นบุคคลผู้ประพฤติ ตบะ มีอาชีพเศร้าหมองบางคนในโลกนี้ เบื้องหน้าแต่ ตายเพราะกายแตก ย่อมเข้าถึง สุคติ โลกสวรรค์ ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุ มนุษย์ก็มี (เป็นเรื่องไม่แน่นอน) ............................................................................................................... เราเห็นบุคคลผู้ประพฤติ ตบะ บางคนในโลกนี้ อยู่เป็นทุกข์ เพราะบุญน้อยเบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ด้วยทิพยจักษุอัน บริสุทธิ์ ล่วงจักษุมนุษย์ก็มี เราเห็นบุคคลผู้ประพฤติ ตบะ บางคนในโลกนี้ อยู่เป็นทุกข์ เพราะบุญน้อย เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก ย่อมเข้าถึง สุคติ โลกสวรรค์ ด้วยทิพยจักษุอัน บริสุทธิ์ ล่วงจักษุมนุษย์ก็มี (เป็นเรื่องไม่แน่นอน) เรารู้การมา การไป จุติและอุบัติ ของบุคคลผู้ประพฤติตบะเหล่านี้ ตามความ เป็นจริงอย่างนี้ เหตุไร เราจักติ ตบะ ทุกอย่าง จักคัดค้านกล่าวโทษ บุคคลผู้ประพฤติ ตบะ ทั้งปวง ผู้มีอาชีพเศร้าหมองโดยส่วนเดียวเล่า? ............................................................................................................... ทรงแสดงหนทางที่ผู้ปฎิบัติตามแล้ว จะเห็นได้เองว่าถูกต้อง ดูกรกัสสป มรรคามีอยู่ ปฏิปทามีอยู่ บุคคลปฏิบัติตามแล้ว จักรู้เอง จักเห็นเองว่า พระสมณโคดม กล่าวตามกาล กล่าวจริง กล่าวอรรถ กล่าวธรรม กล่าววินัย ดูกรกัสสป มรรคาเป็นไฉน ปฏิปทาเป็นไฉน ที่บุคคลปฏิบัติตามแล้ว จักรู้เอง จักเห็นเองว่า พระสมณโคดม กล่าวตามกาล กล่าวจริง กล่าวอรรถ กล่าวธรรม กล่าววินัย มรรคาประกอบด้วยองค์ ๘ อันประเสริฐนี้ คือ ความเห็นชอบ ความดำริชอบ เจรจาชอบ การงานชอบ เลี้ยงชีพชอบ พยายามชอบ ระลึกชอบ ตั้งใจชอบ ดูกรกัสสป มรรคานี้แล ปฏิปทานี้แล ที่บุคคลปฏิบัติตามแล้ว จักรู้เอง จักเห็นเองว่า พระสมณโคดม กล่าวตามกาล กล่าวจริง กล่าวอรรถ กล่าวธรรม