เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 
  อาการเกิดแห่ง อกุศลสังกัปปะ หรือ มิจฉาสังกัปปะ 129  
 

อาการเกิดแห่ง อกุศลสังกัปปะ หรือ มิจฉาสังกัปปะ
(สรุปจากการสาธยายธรรม โดย พอจ.คึกฤทธิ์ โสตถิผโล วัดนาป่าพง)

กรณีกามวิตก

ภิกษุทั้งหลาย ! กามวิตก (ความตริตรึกในกาม)
ย่อมเกิดอย่างมีเหตุให้เกิด ไม่ใช่เกิดอย่างไม่มีเหตุให้เกิด นั้นเป็นอย่างไรเล่า ?

ภิกษุทั้งหลาย !
เพราะอาศัย กามธาตุ (อายตนะทั้ง6) จึงเกิด กามสัญญา
เพราะอาศัย กามสัญญา จึงเกิด กามสังกัปปะ
    เพราะอาศัย กามสังกัปปะ จึงเกิด กามฉันทะ
      เพราะอาศัย กามฉันทะ จึงเกิด กามปริฬาหะ (ความเร่าร้อนเพื่อจะได้กาม)
            เพราะอาศัย กามปริฬาหะ จึงเกิด กามปริเยสนา (การแสวงหากาม)

ภิกษุทั้งหลาย ! บุถุชนผู้ไม่มีการสดับ เมื่อแสวงหาอยู่อย่างแสวงหากาม
ย่อมปฏิบัติผิดโดยฐานะสาม คือ โดยกาย โดยวาจา โดยใจ.

กามธาตุ หรือ กามภพ
(ประกอบด้วยธาตุ 4 ดิน น้ำ ไฟ ลม)
(ประกอบด้วย สวย กับไม่สวย)
ถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กามฉันทะ กามสัญญา กามสังกัปปะ

กามคุณ
รูป ที่เห็นด้วย ตา
เสียง ที่ฟังด้วย หู
กลิ่น ที่ดมด้วย จมูก
รส ที่ลิ้ม ด้วยลิ้น
สัมผัส ด้วย โผฏฐัพพะทางกาย


ทั้งหมดมี 5 ช่องทาง
อันเป็นส่วนที่ น่ารักใคร่ น่าปรารถนา น่าพอใจ ยลตา ยลใจ ให้รัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่
อันนี้จึงเรียกว่าเป็นส่วนของกาม

ดังนั้นในรูปนี้ มีทั้ง น่ารักใคร น่าพอใจ และ ไม่น่ารักใคร่ ไม่น่าพอใจ
แต่ในส่วนของความ น่ารักใคร่ น่าพอใจ จึงจะเรียกว่า กาม

กามธาตุ
ถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กามฉันทะ กามสัญญา กามสังกัปปะ

ในกามธาตุ ซึ่งมีอยู่ 2 กลุ่ม คือ สวย กับ ไม่สวย
ในส่วนของสวย เมื่อไปสัมผัส จะเกิดกามฉันทะ พอใจ (ระดับที่1)
เวลาผ่านไปเมื่อหวนไปนึกถึง  สิ่งที่พอใจ อาหารที่อร่อย

อยากได้ไม้..อยากได้  ตรงนี้เรียกว่า กามสัญญ(ระดับที่2)
2 ระดับนี้ ปุถุชนดับได้ แต่ปุถุชนจะดับกามระดับที่ 3 ไม่ได้ คือ กามสังกัปปะ
ซึ่งพระศาสดาตรัสว่าถ้าจะดับกามสังกัปปะ ต้องใช้นิสรณะ (อุบายเครื่องออกจาก กาม) คือการเห็นการเกิดขึ้นและดับไป

ดังนั้น สังกัปปะ ตัวนี้คือ คือตัวสังขารที่ปรุงขึ้นมา พระองค์เรียก ตรงนี้ว่าเป็นอนุสัย
นี่คือส่วนละเอียดของกาม ส่วนละเอียดของกามธาตุคือตัวกามคุณ 5 ซึ่งกระทบกับ ผัสสะ จะเกิดความพอใจ เกิดกามสัญญา เกิดกามสังกัปปะ ซึ่งพระองค์เรียก ทั้งหมด ว่า กามวิตก

จึงบอกว่า กามวิตก นี้เป็นธรรมมีเหตุเกิด มิใช่เป็นธรรมที่ไม่มีเหตุเกิด

เหตุเกิดของกามวิตก คืออะไรเล่า พระองค์บอกว่า
กามธาตุ
เป็นเหตุให้เกิด กามสัญญา
กามสัญญา
เป็นเหตุให้เกิด ามสังกัปปะ

กามสังกัปปะ เป็นเหตุให้เกิด ปริฬาหะ (ความเร่าร้อนเพื่อจะได้กาม)
ปริฬาหะ เป็นเหตุให้เกิด ปริเยสนา (การแสวงหากาม)
แล้วก็ได้ลาภา มีการได้มาซึ่งกาม เราก็จะวิ่งไปหาอาหารอร่อย ไปฟังเสียงที่ไพเราะ
เท่ากับได้กามมาแล้ว หรือ การปรุงขึ้นมา

พอปรุงแล้วเราจะวิ่งหาจนย้อนกลับมาสู่ตัวธาตุที่เราปรุง ก็เป็น ลาภา คือการได้ธาตุนั้นมาได้
รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ที่น่ารักใคร น่าปรารถนา น่าพอใจ
มันก็จะวนอยู่ในนี้ ในกามภพแบบนี้

พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์