พระภัททิยกาฬิโคธาบุตร
เอตทัคคะผู้เกิดในสกุลสูง (เพราะทรงสละราชสมบัติออกผนวช)
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระภัททิยกาฬิโคธาบุตร หรือ พระภัททิยะ
เป็นพระภิกษุสาวกเอตทัคคะของพระพุทธเจ้า นับเนื่องในพระอสีติมหาสาวก 80 องค์สำคัญในพระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาล พระภัททิยเถรศากยราชา เป็นพระประยูรญาติของพระพุทธเจ้า โดยเป็นพระมหากษัตริย์ แห่งแคว้นสักกะ ก่อนทรงสละราชสมบัติออกผนวชจนบรรลุเป็นพระอรหันต์
พระภัททิยะ
ออกผนวชโดยการชักชวนของเจ้าชายอนุรุทธกุมารผู้เป็นพระสหาย พระองค์ออกผนวชพร้อมกับเจ้าราชกุมารอีก 5 พระองค์ และนายอุบาลีภูษามาลา ณ อนุปิยนิคม เมื่อท่านบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว ท่านมักอุทานเสมอว่า "สุขหนอ ๆ" พระพุทธเจ้ายกย่องท่านให้เป็นพระเอตทัคคะผู้เลิศทางผู้เกิดในสกุลสูง
พระราชประวัติ
พระภัททิยะ เป็นพระประยูรญาติของพระพุทธเจ้า โดยท่านเป็นเจ้าชายนับเนื่องในพระศากยราชวงศ์ ไม่ปรากฏว่าพระราชบิดาของพระองค์ทรงพระนามใด แต่พระราชมารดาของพระองค์ทรงพระนามว่า พระนางกาฬิโคธาราชเทวี พระองค์ได้เสวยราชสมบัติ สืบต่อจากพระราชบิดาจวบจนเสด็จออกผนวช
สาเหตุที่ทรงออกผนวช
พระภัททิยะ มีพระราชศรัทธาเสด็จออกผนวชในพระพุทธศาสนา พร้อมกับเจ้าราชกุมารทั้ง 5 คือ เจ้าชายอนุรุทธะ, เจ้าชายอานันทะ, เจ้าชายภัคคุ, เจ้าชายกิมพิละ และเจ้าชายเทวทัตต์ และนายช่างกัลบกนามว่านายอุบาลีภูษามาลาอีก 1 ท่าน รวมเป็น 7 ณ อนุปิยอัมพวัน ในอนุปิยนิคม โดยการชักชวนของเจ้าชายอนุรุทธะ โดยในวันผนวชนั้น เจ้าชายทั้ง 6 ได้ตกลงกันให้นายอุบาลี ผู้เป็นช่าง ภูษามาลาออกบวชก่อนตน เพื่อจะได้ทำความเคารพเป็นการลดทิฐิและมานะ แห่งความเป็นเชื้อสายกาษัตริย์ของตนลง โดยทั้งหมด ได้อุปสมบทด้วยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทาโดยตรงจากพระพุทธเจ้า
เมื่อผนวชแล้ว ได้ทรงตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรมจนบรรลุพระอรหันต์ จนเมื่อบรรลุแล้วพระองค์มักเปล่งอุทานว่า "สุขหนอ ๆ" อยู่เสมอ ๆ จนพระสงฆ์เข้าใจผิดว่าท่านคำนึงเสียดายราชสมบัติที่ทรงสละมา พระสงฆ์เหล่านั้นจึงไปกราบบังคมทูลความนั้นแด่พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงเรียกท่านมาสอบถาม ท่านกราบบังคมทูลพระพุทธเจ้าว่าที่ท่านชอบอุทานเช่นนั้น เป็นเพราะความสุขคือความสบาย และปลอดภัยอันเกิดจากการสละราชสมบัติ เพราะเมื่อยังทรงครองราชสมบัตินั้น มีแต่ความหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ต้องมีข้าราชบริพาร และทหารรักษาพระองค์ล้อมรอบเพื่อถวายการอารักขา ทำให้เมื่อออกบวชแล้วจะอยู่ที่ไหน ก็ไม่ต้องมานั่งมัว ระแวงภัย อาศัยบิณฑบาตเลี้ยงชีพ มีใจดุจมฤคา คือคนผู้ไม่มีภาระท่องเที่ยวไป เมื่อกราบทูลเสร็จ พระพุทธองค์จึงตรัสชมเชย พระภัททิยเถรศากยะ
และด้วยความที่ท่านเกิดในตระกูลแห่งกษัตริย์ ดำรงพระราชสถานะเป็นพระมหากษัตริย์ แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ ผู้เป็นประธานแห่งแคว้น สักกะ แต่มีใจพระราชศรัทธาออกผนวชเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา บำเพ็ญสมณธรรมจนบรรลุพระอรหันต์ พระพุทธเจ้าจึงยกย่องท่านว่า เป็นผู้เลิศด้าน ผู้เกิดในตระกูลสูง
|