เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม

     เรื่องทั่วไป ในวงการศาสนา ข่าวในวงการสงฆ์ กฎหมายปกครองสงฆ์
ค้นหาคำที่ต้องการ          

  การสืบทอดพุทธศาสนา และ การบริหารคณะสงฆ์ไทย N150
 

(ย่อ)

กฏหมายสงฆ์ยุคแรกจะปฏิบัติให้สอดคล้องกันทั้ง 3 เรื่องคือ
 พระวินัย จารีต และกฎหมายแผ่นดิน

พุทธศาสนาในสมัยสมัยกรุงสุโขทัย
ได้รับอิทธิพล และนับถือพระพุทธศาสนา
  แบบเถรวาทเดิม สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช
  แบบมหายาน แบบเถรวาท อย่างพุกาม (พม่า)
  แบบเถรวาท อย่างลังกา

คณะสงฆ์สมัยสุโขทัย แบ่งออกเป็น ๒ คณะ คือ
  
คามวาสี (คณะสงฆ์ฝ่ายขวา)
  
อรัญวาสี (คณะสงฆ์ฝ่ายซ้าย)
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สมัยกรุงศรีอยุธยา
ภิกษุในยุคนี้ ไม่สนใจศึกษาหลักธรรมขั้นสูงนัก ยังมุ่งเรื่องบุญ กุศล สร้างวัดวาอาราม และพิธีกรรม
พระมหากษัตริย์ในรัชกาลต่างๆ ได้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เนื่องจากเห็นว่าภิกษุไทย ประพฤติ หย่อนยาน กว่าภิกษุศรีลังกา ขณะเดียวกันก็ได้ทรงผนวชเป็นเวลานานๆ

พระไตรปิฎก พระเจ้าทรงธรรม เป็นผู้รวบรวมจัดทำได้เป็นผลสำเร็จบริบูรณ์ เป็นครั้งแรก
สมัยพระนารายณ์ มีการทดสอบความรู้ในพระธรรมวินัยกับข้าราชการในการบรรจุเข้าทำงาน
ส่วนภิกษุสามเณร ก็จะมีการทดสอบความรู้ในทางธรรม ใครไม่ผ่านจะถูกบังคับให้สึก

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 


การสืบทอดพุทธศาสนา และ การบริหารคณะสงฆ์ไทย


              การบริหารคณะสงฆ์มีมาแล้วตั้งแต่พุทธกาล หลักที่ใช้คือ พระธรรมวินัย เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานแล้ว เกิดความไม่เรียบร้อยขึ้น จึงได้มีการ ทำปฐมสังคายนาขึ้น ที่เมืองราชคฤห์ โดยมีพระมหากัสสปเป็นประธาน การบริหาร คณะสงฆ์ ก็เรียบร้อยมาได้ระยะหนึ่ง ต่อมาก็เกิด ถือลัทธิต่างกัน เกิดความ ไม่เรียบร้อยขึ้นอีก เป็นเช่นนี้ตลอดมา

เมื่อพระพุทธศาสนาล่วงมาได้ประมาณ ๒๐๐ ปี เศษ พระเจ้าอโศกมหาราช ได้ครอบครอง อาณาจักรอินเดีย อย่างกว้างขวาง พระองค์เลื่อมใสใน พระพุทธศาสนา ได้ยกพระพุทธศาสนาเป็นประธาน สำหรับประเทศเป็นครั้งแรก พวกเดียรถีย์ ได้ปลอมตน เข้าบวชเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนา เพื่อแสวงประโยชน์ ส่วนตน เป็นอันมาก เกิดความไม่เรียบร้อยขึ้นในสังฆมณฑล พระเจ้าอโศกมหาราช จึงทรง อาราธนาพระโมคคัลลีบุตร เป็นประธานสังคายนาพระธรรมวินัย ที่เมือง ปาตลีบุตร เมื่อ พ.ศ. ๒๓๖ วางระเบียบพระธรรมวินัยให้รวมลงเป็นอย่างเดียวกัน สังฆมณฑล จึงเกิดความเรียบร้อยสืบต่อมา

เมื่อพระพุทธศาสนาได้เผยแผ่ออกไปยังประเทศต่าง ๆ การบริหารสังฆมณฑล จึงต้องอนุโลมไปตามแบบแผน ประเพณีของประเทศนั้น ๆ ในบางส่วน เพื่อให้ พุทธจักร และอาณาจักรเป็นไปด้วยดีทั้งสองฝ่าย สรุปแล้วพระภิกษุสงฆ์มีกฎหมาย ที่พึงปฏิบัติอยู่ สามประเภทคือ พระวินัย จารีต และกฎหมายแผ่นดิน

 

การบริหารคณะสงฆ์สมัยสุโขทัย

พระพุทธศาสนาได้ประดิษฐานในดินแดนสุวรรณภูมิ อันเป็นที่ตั้งของประเทศไทย และอีกหลายประเทศในอาเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาตั้งแต่ยุคกรุงสุโขทัยเป็น ราชธานีของไทย  ในประมาณปี พ.ศ. ๑๘๐๐ ประชาชนในดินแดนแห่งนี้ ได้รับ นับถือ พระพุทธศาสนา แบบเถรวาทเดิมสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช แบบมหายาน แบบเถรวาท อย่างพุกาม และแบบ เถรวาทอย่างลังกา สืบกันมา ตามลำดับ

จากหลักฐานในศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแห่งมหาราช แห่งราชอาณาจักรสุโขทัย พบว่ามี สังฆราช ปู่ครู มหาเถระ และเถระ ในสมัยนี้น่าจะมีพระสังฆราช มากกว่า องค์เดียว เพราะทางราชอาณาจักร มีทั้งเมืองในปกครองโดยตรง และเมือง ประเทศราช มีเจ้าปกครอง จึงน่าจะมีสังฆราชของตนเองด้วย

คณะสงฆ์สมัยสุโขทัย แบ่งออกเป็น ๒ คณะ คือ คามวาสี และอรัญวาสี จัดระเบียบ การปกครองคณะสงฆ์เป็นฝ่ายขวา และฝ่ายซ้าย มีราชทินนาม สำหรับสังฆนายก ตามแบบลังกา ฝ่ายขวาคือพระสังฆราชอยู่วัดมหาธาตุ และมีพระครูอยู่วัดต่าง ๆ เป็นสังฆนายกชั้นรองลงมาอีก ๓ องค์ ฝ่ายซ้ายมีพระครูธรรมราชา อยู่วัดไตรภูมิ ป่าแก้ว และพระครูวัดต่าง ๆ เป็นสังฆนายกรองลงมาอีก ๒ องค์

การบริหารคณะสงฆ์สมัยอยุธยา

ในตอนแรกคล้ายกับสมัยสุโขทัย คือ เป็นคณะคามวาสี และ คณะอรัญวาสี  ต่อมามี พระสงฆ์ไทยไปศึกษาพระธรรมวินัย ที่เมืองลังกา แล้วกลับมาประพฤติปฏิบัติ เคร่งครัดกว่าคณะสงฆ์ไทยที่เป็นอยู่เดิม จึงได้มีการตั้งคณะขึ้นอีกหนึ่งคณะคือ คณะป่าแก้ว ซึ่งต่อมาเรียกว่าคณะคามวาสี ฝ่ายขวา

ความนับถือพระพุทธศาสนาสมัยอยุธยา ไม่สู้สนใจหลักธรรมชั้นสูงนัก ส่วนใหญ่ มุ่งไป สู่เรื่องทำบุญ ทำกุศล สร้างวัด ปูชนียสถาน ปูชนียวัตถุ และทำพิธีกรรมต่าง ๆ มาก รวมทั้งการฉลอง และงานมนัสการ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (พ.ศ. ๑๙๙๑-๑๙๙๘) ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนามาก ทรงออกผนวชถึง ๘ เดือน

ในรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรม  (พ.ศ. ๒๑๖๓-๒๑๗๑) ได้โปรดเกล้า ฯ ให้สร้าง พระไตรปิฎกไว้ จบบริบูรณ์

ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ มหาราช (พ.ศ. ๒๑๗๓-๒๒๗๕) มีผู้นิยมบวชเรียน กันมากทำให้มีคนหลบเลี่ยงราชการไปบวชกันมาก จนต้องมีการออกมาตรการ ให้มี การสอบความรู้พระภิกษุ สามเณรที่มาบวชโดยไม่มีความรู้ในพระศาสนา ถูกบังคับให้ ลาสิกขาเป็นอันมาก

ในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกฐ (พ.ศ. ๒๒๗๕-๒๓๑๐) เกิดมีประเพณีว่า ผู้ที่จะเข้า รับราชการเป็นขุนนาง ข้าราชการ มียศฐาบรรดาศักดิ์ ต้องได้บวชมาแล้ว จึงจะทรง แต่งตั้ง ในห้วงเวลานี้ ทางลังกาเกิดสูญสิ้นพุทธศาสนวงศ์ กษัตริย์ลังกา ต้องส่ง ราชทูต มาขอคณะสงฆ์ไทยไปตั้งสยามวงศ์ หรืออุบาลีวงศ์ที่ลังกา สืบต่อมา จนถึง ปัจจุบัน

การบริหารคณะสงฆ์สมัยปลายอยุธยา ถือพระธรรมวินัยเป็นหลัก ทางด้านอาณาจักร ได้อาศัยพระบรมราชูปถัมภ์ จากพระมหากษัตริย์ ทำให้คณะสงฆ์เป็นระเบียบ เรียบร้อย และเจริญก้าวหน้า สามารถเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังต่างประเทศได้ การปกครอง และการตั้งสมณศักดิ์ มีตำแหน่งสังฆนายก เป็น ๓ ระดับคือ สมเด็จพระสังฆราช
พระสังฆราชาคณะ และ
พระครูเจ้าคณะเมืองใหญ่
เป็นที่สังฆราชา เจ้าคณะเมืองเล็ก เป็นพระครู

พระสังฆปรินายกเป็น สมเด็จพระสังฆราช บรรดาพระสงฆ์ ต่างชาติเช่น มอญ ลาว เป็นต้น ให้พระครูเป็นหัวหน้าดูแล โดยแบ่งการปกครองสงฆ์ไว้ดังนี้

คณะคามวาสี ฝ่ายซ้าย สมเด็จพระอริยวงศา สังฆราชาธิบดี วัดหน้าพระธาตุ เป็นเจ้าคณะ มีฐานานุกรม ๑๐ รูป มีพระราชาคณะในกรุง เป็นเจ้าคณะรอง ๑๗ รูป ๑๗ วัด มีพระครูหัวเมืองฝ่ายเหนือ ขึ้นไปปกครอง ๒๔ รูป ๒๒ เมือง ในจำนวนนี้ เมืองพิษณุโลก มีสังฆราชา และมีพระครูที่ขึ้นกับคณะพิษณุโลก ๓ เมือง ๓ รูป เมืองสุโขทัยมีสังฆราชา เมืองลพบุรี สวางคบุรีและนครราชสีมา มีพระครูเป็นที่ สังฆราชา เมืองปรันตะประเทศ มีพระครูเป็นเจ้าคณะ ๓ รูป มีเมืองที่ไม่มีพระครู ๒๖ เมือง

คณะคามวาสี ฝ่ายขวา พระวันรัตวัดป่าแก้วเป็นเจ้าคณะ มีพระฐานานุกรม ๑๑ รูป มีพระราชาคณะในกรุงเป็น เจ้าคณะรอง ๑๗ รูป ๑๗ วัด คณะหัวเมืองปักษ์ใต้ มีพระครู หัวเมือง ๕๖ รูป ๒๖ เมือง เมืองราชบุรี เพชรบุรี และจันทบุรี มีพระครูเป็นที่ สังฆราชา มีหัวเมืองไม่มีพระครู อีก ๒๐ เมือง

คณะอรัญวาสี พระพุทธาจารย์ วัดโบสถ์ราชเดชะ เป็นเจ้าคณะปกครองคณะสงฆ์ ฝ่ายสมถวิปัสสนา ทั้งในกรุง และนอกกรุง เจ้าคณะรอง ๗ รูป ๗ วัด และพระครูฝ่าย วิปัสสนา พระครูเจ้าคณะสามัญ พระครูเจ้าคณะลาว ขึ้นอยู่ในปกครองด้วย


ที่มา เว็บไซต์ หอมรดกไทย
http://thaiheritage.net

 
หนังสือพุทธวจน : ออนไลน์
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์