ประกาศพระราชบัญญัติ
เรื่องพระสงฆ์สามเณรลักเพศ
(สมัยรัชกาลที่ ๔)
ณ วันเสาร เดือน ๕ แรม ๑๑ ค่ำ ปีระกายังเปนโทศก
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มีพระบรมราชโองการมาร พระบัณฑูรสุรสิงหนาท ให้ประกาศแก่พระราชวงศานุวงศ์ ข้าทูลลอองธุลีพระบาท ในพระบรมมหาราชวัง ในพระบวรราชวัง แลพระสงฆ์ แล สามเณร แลราษฎรทั้งปวง ให้ทราบทั่วกันว่า
พระสงฆ์สามเณรทุกวันนี้ มักประพฤติการนักเลง แปลงเพศเปนคฤหัสถ์ ไปเล่นเบี้ย เล่นโป แล สูบฝิ่น กินสุรา ถือศัสตราวุธ เที่ยวกลางคืน ชุกชุมมาก ขึ้นจับได้มา เนืองๆ
ครั้นแปลงเพศ มาถึงกุฎีแล้ว ก็สำคัญใจว่าตัวไม่ได้ปลงสิกขาบท กลับเอาผ้าเหลือง นุ่งห่มเข้าตามเพศเดิม การที่ถือใจว่าไม่ได้ปลงสิกขาบท กลับนุ่งห่มผ้าเหลืองนั้น เปนความในใจจะเชื่อถือเอาไม่ได้
ฝ่ายคฤหัสถ์ ที่แปลงเพศ เปนภิกษุเข้าร่วมสังฆกรรม ในคณะสงฆ์นั้น ตามพระวินัย บัญญัติ ก็มีโทษห้ามอุปสมบท เพราะฉะนั้นตั้งแต่นี้สืบไป พระสงฆ์สามเณรรูปใดๆ แปลงเพศ เปนคฤหสถ์ ปลอมไป เล่นเบี้ย เล่นโป แลสูบฝิ่น กินสุรา ถืออาวุธ เที่ยวกลางคืน อย่างใดอย่างหนึ่ง
ที่กล่าวห้ามไว้นั้น มีผู้จับตัวมาได้ ฤๅสึกแล้ว ยังไม่พ้นสามเดือน มีโจทย์ฟ้อง กล่าวโทษ
พิจารณาเปนสัจแล้ว จะให้สักหน้าว่าลักเพศภิกษุ ลงพระราชอาญา เฆี่ยน ๒ ยก ๖๐ ที ส่งตัวไปเปนไพร่หลวงโรงสี
ฝ่ายพระราชวงศานุวงศ์ ข้าทูลลอองธุลีพระบาท แลราษฎรคนใด ที่ได้ไปเล่นเบี้ย เล่นโป สูบฝิ่น กินสุรา อย่างหนึ่งอย่างใด ด้วยกันกับพระสงฆ์ สามเณร ที่แปลงเพศ เปนคฤหัสถ์นั้น จะให้ปรับไหม นับตัวพระสงฆ์ สามเณร
ผู้ที่ลักเพศไปด้วยนั้น รูปละ ๑๐๐ บาท ทุกคน เงินค่าปรับไหม จะเอาไป ทำการใน พระอาราม เปนพินัยแก่พระพุทธสาสนา ถ้าไม่มีเงินจะเสียค่า ปรับไหม ก็จะให้เอาตัว จำ ตรวน ไว้ใช้การในพระอาราม หักเงินให้เปนค่าแรง เดือนละตำลึงกึ่ง กว่าจะครบ เงินค่าปรับไหม
อนึ่งพระสงฆ์สามเณรรูปใดๆ สึกวันใดแล้ว ขอให้พระราชาคณะพระครูถานานุกรม เปรียญ แลเจ้าอธิการในอารามนั้นวัดนั้น จดหมายไว้ให้มั่นคงแน่นอน ว่าพระสงฆ์ สามเณร รูปนั้นๆ สึกวันนั้น จะได้เปนที่อ้างหมายเปนสำคัญต่อไป
พระราชบัญญัติ ประกาศมาณวันเสาร เดือน ๕ แรม ๑๑ ค่ำ ปีระกา ยังเปนโทศก เปนวันที่ ๓๖๑๕ ในรัชกาลปัจจุบันนี้ พระธรรมการบดีเปนผู้รับสั่ง
ที่มา เว็บไซต์รัฐสภาไทย
|