บาลี อุปริ. ม. ๑๔/๒๐๔/๒๙๔.
บทสวด อานาปานสติสูตร
(การทำสติในรูปแห่งกายานุปัสสนา ตามนัยแห่งอานาปานสติสูตร)
ภิกษุทั้งหลาย !
ในกรณีนี้ภิกษุไปแล้วสู่ป่า หรือโคนไม้ หรือเรือนว่างก็ตาม
นั่งคู้ขาเข้ามาโดยรอบ ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า
เธอนั้นมีสติหายใจเข้า มีสติหายใจออก
เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่าเราหายใจเข้ายาว
เมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่าเราหายใจออกยาว
เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่าเราหายใจเข้าสั้น
เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่าเราหายใจออกสั้น
...................................................................................................................
เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า
เราเป็นผู้ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง หายใจเข้า
ว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง หายใจออก
เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า
เราเป็นผู้ ทำกายสังขารให้รำงับ หายใจเข้า
ว่า เราเป็นผู้ทำกายสังขารให้รำงับ หายใจออก
...................................................................................................................
เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า
เราเป็นผู้ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งปีติ หายใจเข้า
ว่า เราเป็นผู้รู้ พร้อมเฉพาะซึ่งปีติ หายใจออก
เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า
เราเป็นผู้ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งสุข หายใจเข้า
ว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งสุข หายใจออก
...................................................................................................................
เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า
เราเป็นผู้ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งจิตตสังขาร หายใจเข้า
ว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งจิตตสังขาร หายใจออก
เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า
เราเป็นผู้ ทำจิตตสังขารให้รำงับ หายใจเข้า
ว่า เราเป็นผู้ทำ จิตตสังขารให้รำงับ หายใจออก
...................................................................................................................
เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า
เราเป็นผู้ รู้พร้อมเฉพาะซึ่งจิต หายใจเข้า
ว่า เราเป็นผู้รู้ พร้อมเฉพาะซึ่งจิต หายใจออก
เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า
เราเป็นผู้ ทำจิตให้ปราโมทย์ยิ่ง หายใจเข้า
ว่า เราเป็นผู้ทำจิตให้ปราโมทย์ยิ่ง หายใจออก
...................................................................................................................
เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า
เราเป็นผู้ ทำจิตให้ตั้งมั่น หายใจเข้า
ว่า เราเป็นผู้ทำจิต ให้ตั้งมั่น หายใจออก
เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า
เราเป็นผู้ ทำจิตให้ปล่อยอยู่ หายใจเข้า
ว่า เราเป็นผู้ทำ จิตให้ปล่อยอยู่ หายใจออก
...................................................................................................................
เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า
เราเป็นผู้ เห็นซึ่งความไม่เที่ยงอยู่เป็นประจำ หายใจเข้า
ว่า เราเป็นผู้เห็นซึ่งความไม่เที่ยงอยู่เป็นประจำ หายใจออก
เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า
เราเป็นผู้ เห็นซึ่งความจางคลายอยู่เป็นประจำ หายใจเข้า
ว่า
เราเป็นผู้เห็นซึ่งความจางคลายอยู่เป็นประจำ หายใจออก
...................................................................................................................
เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า
เราเป็นผู้ เห็นซึ่งความดับไม่เหลืออยู่เป็นประจำ หายใจเข้า
ว่า เราเป็นผู้เห็นซึ่งความดับไม่เหลืออยู่เป็นประจำ หายใจออก
เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า
เราเป็นผู้ เห็นซึ่งความสลัดคืนอยู่เป็นประจำ หายใจเข้า
ว่า เราเป็นผู้เห็นซึ่งความสลัดคืนอยู่เป็นประจำ หายใจออก
...................................................................................................................
ภิกษุทั้งหลาย ! อานาปานสติอันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้วอย่างนี้แล ย่อมมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่
ภิกษุทั้งหลาย ! เมื่ออานาปานสติอันบุคคลเจริญ ทำให้มากแล้วอยู่อย่างนี้ ผลอานิสงส์อย่างใดอย่างหนึ่ง ในบรรดาผล ๒ ประการ เป็นสิ่งที่หวังได้คือ อรหัตตผล ในปัจจุบัน หรือว่าถ้ายังมี อุปาทิ เหลืออยู่ ก็จักเป็น อนาคามี
|