เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 
  ปฏิจจสมุปบาท ผลจากความไม่มีธรรมะ ของมนุษย์ (อย่างหนัก) 451
 

เนื้อหาในพระสูตรนี้พอสังเขป

ผลจากความไม่มีธรรมะของมนุษย์ (อย่างหนัก)
เพราะยากจน จึงมีอทินนาทาน (ลักทรัพย์)
เพราะมีอทินนาทาน จึงมี การใช้ศัสตราวุธ
เพราะมีการใช้ศัสตราวุธ จึงมีปาณาติบาต จึงมีปาณาติบาต จึงมีมุสาวาท...



 
 
 

จักกวัตติสูตร ปา.ที. ๑๑/๗๐-๘๐/๓๙-๔๗,
(ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย ในแว่นแคว้นมคธ)


ปฏิจจสมุปบาท แห่ง มิคสัญญีสัตถันตรกัปป์๑
ผลจากความไม่มีธรรมะของมนุษย์ (อย่างหนัก)

ภิกษุทั้งหลาย ! เมื่อพระราชา มีการกระทำ ชนิดที่เป็นไปแต่เพียงเพื่อการคุ้มครอง อารักขา แต่มิได้เป็นไปเพื่อการกระทำให้เกิดทรัพย์ แก่บุคคลผู้ไม่มีทรัพย์ทั้งหลาย ดังนั้นแล้ว ความยากจนขัดสน ก็เป็นไปอย่างกว้างขวางแรงกล้าถึงที่สุด

เพราะ ความยากจนขัดสน เป็นไปอย่างกว้างขวางแรงกล้าถึงที่สุด อทินนาทาน (ลักทรัพย์) ก็เป็นไปอย่างกว้างขวางแรงกล้าถึงที่สุด

เพราะ อทินนาทาน เป็นไปอย่างกว้างขวางแรงกล้าถึงที่สุด การใช้ศัสตราวุธ โดยวิธีการต่างๆ ก็เป็นไปอย่างกว้างขวางแรงกล้าถึงที่สุด

เพราะ การใช้ศัสตราวุธ โดยวิธีการต่างๆ เป็นไปอย่างกว้างขวางแรงกล้าถึงที่สุด ปาณาติบาต(ซึ่งหมายถึงการฆ่ามนุษย์ด้วยกัน) ก็เป็นไปอย่างกว้างขวางแรงกล้า ถึงที่สุด

เพราะ ปาณาติบาต เป็นไปอย่างกว้างขวางแรงกล้าถึงที่สุด มุสาวาท (การหลอก ลวงคดโกง) ก็เป็นไปอย่างกว้างขวางแรงกล้าถึงที่สุด (ในสมัยนี้ มนุษย์มีอายุขัย ถอยลงมาจาก ๘ หมื่นปีเหลือเพียง ๔ หมื่นปี)

เพราะ มุสาวาท เป็นไปอย่างกว้างขวางแรงกล้าถึงที่สุด ปิสุณาวาท (การพูดจายุ แหย่ เพื่อการแตกกันเป็นก๊กเป็นหมู่ ทำลายความสามัคคี) ก็เป็นไปอย่างกว้างขวาง แรงกล้าถึงที่สุด (ในสมัยนี้ มนุษย์มีอายุขัยถอยลงมาเหลือเพียง ๒ หมื่นปี)

เพราะ ปิสุณาวาท เป็นไปอย่างกว้างขวางแรงกล้าถึงที่สุด กาเมสุมิจฉาจาร (การ ทำชู้ การละเมิดของรักของบุคคลอื่น) ก็เป็นไปอย่างกว้างขวางแรงกล้าถึงที่สุด (ในสมัยนี้ มนุษย์มีอายุขัยถอยลงมาเหลือเพียง ๑ หมื่นปี)

เพราะ กาเมสุมิจฉาจาร เป็นไปอย่างกว้างขวางแรงกล้าถึงที่สุด ผรุสวาท และ สัมผัปปลาปวาท (การใช้คำหยาบ และคำพูดเพ้อเจ้อเพื่อความสำราญ) ก็เป็นไปอย่าง กว้างขวางแรงกล้าถึงที่สุด (ในสมัยนี้ มนุษย์มีอายุขัยถอยลงมาเหลือเพียง ๕ พันปี)

เพราะ ผรุสวาทและสัมผัปปลาปวาท เป็นไปอย่างกว้างขวางแรงกล้าถึงที่สุด อภิชฌา และพยาบาท (แผนการกอบโกย และการทำลายล้าง) ก็เป็นไปอย่าง กว้างขวางแรงกล้าถึงที่สุด (ในสมัยนี้ มนุษย์มีอายุขัยถอยลงมาเหลือเพียง ๒,๕๐๐-๒,๐๐๐ ปี)

เพราะ อภิชฌาและพยาบาท เป็นไปอย่างกว้างขวางแรงกล้าถึงที่สุด มิจฉาทิฏฐิ (ความเห็นผิดชนิดเห็นกงจักรเป็นดอกบัว นิยมความชั่ว) ก็เป็นไปอย่างกว้างขวาง แรงกล้า ถึงที่สุด (ในสมัยนี้ มนุษย์มีอายุขัยถอยลงมาเหลือเพียง ๑,๐๐๐ ปี)

เพราะ มิจฉาทิฏฐิ เป็นไปอย่างกว้างขวางแรงกล้าถึงที่สุด (อกุศล) ธรรมทั้งสาม คือ อธัมมราคะ (ความยินดีที่ไม่เป็นธรรม) วิสมโลภะ (ความโลภไม่สิ้นสุด) มิจฉาธรรม (การประพฤติตามอำนาจกิเลส)ก็เป็นไปอย่างกว้างขวางแรงกล้าถึงที่สุด (อย่างไม่แยกกัน) (ในสมัยนี้ มนุษย์มีอายุขัยถอยลงมาเหลือเพียง ๕๐๐ ปี)

เพราะ (อกุศล) ธรรมทั้งสาม นั้นเป็นไปอย่างกว้างขวางแรงกล้าถึงที่สุด (อกุศล) ธรรมทั้งหลาย คือไม่ปฏิบัติอย่างถูกต้องในมารดา บิดา, สมณพราหมณ์ ไม่มี กุลเชฏฐาปจายนธรรม (ความอ่อนน้อมตามฐานะสูง ต่ำ) ก็เป็นไปอย่าง กว้างขวาง แรงกล้าถึงที่สุด. (ในสมัยนี้ มนุษย์มีอายุขัยถอยลงมาเหลือเพียง ๒๕๐-๒๐๐-๑๐๐ ปี)

สมัยนั้น จักมีสมัยที่มนุษย์มีอายุขัยลดลงมาเหลือเพียง ๑๐ ปี (จักมีลักษณะแห่ง ความเสื่อมเสียมีประการต่างๆ ดังที่ท่านกล่าวไว้ว่า) หญิงอายุ ๕ ปี ก็มีบุตร รสทั้งห้า คือเนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย และรสเค็ม ก็ไม่ปรากฏ

มนุษย์ทั้งหลาย กินหญ้าที่เรียกว่า กุท๎รูสกะ (ซึ่งนิยมแปลกันว่าหญ้ากับแก้)แทน การกินข้าว กุศลกรรมบถหายไป ไม่มีร่องรอย อกุศลกรรมบถ รุ่งเรืองถึงที่สุดในหมู่ มนุษย์ ไม่มีคำพูดว่ากุศล จึงไม่มีการทำกุศล

มนุษย์สมัยนั้น จักไม่ยกย่องสรรเสริญ ความเคารพเกื้อกูลต่อมารดา (มัตเตยยธรรม)ความเคารพเกื้อกูลต่อบิดา (เปตเตยยธรรม) ความเคารพเกื้อกูล ต่อสมณะ (สามัญญธรรม) ความเคารพเกื้อกูล ต่อพราหมณ์(พรหมัญญธรรม) และ กุลเชฏฐา ปจายนธรรม เหมือนอย่างที่มนุษย์ ยกย่องกันอยู่ในสมัยนี้

ไม่มีคำพูดว่า แม่ น้าชาย น้าหญิง พ่อ อา ลุง ป้า ภรรยาของอาจารย์ และคำพูดว่า เมียของครู สัตว์โลกจักกระทำการสัมเภท (สมสู่สำส่อน)เช่นเดียวกันกับแพะ แกะ ไก่ สุกร สุนัข สุนัขจิ้งจอก ความอาฆาต ความพยาบาท ความคิดร้าย ความคิดฆ่า เป็นไป อย่างแรงกล้า แม้ในระหว่างมารดากับบุตร บุตรกับมารดา บิดากับบุตร บุตรกับ บิดา พี่กับน้อง น้องกับพี่ ทั้งชายและหญิง เหมือนกับที่นายพรานมีความรู้สึกต่อเนื้อ ทั้งหลาย.

ในสมัยนั้น จักมี สัตถันตรกัปป์ (การใช้ศัสตราวุธติดต่อกันไม่หยุดหย่อน) ตลอดเวลา ๗ วัน : สัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น จักมีความสำคัญแก่กันและกัน ราวกะว่า เนื้อ

แต่ละคนมีศัสตราวุธในมือ ปลงชีวิตซึ่งกันและกันราวกะว่า ฆ่าปลา ฆ่าเนื้อ.

มีมนุษย์หลายคน ไม่เข้าร่วมวงสัตถันตรกัปป์ด้วยความกลัว หนีไปซ่อนตัวอยู่ในที่ ที่พอจะซ่อนตัวได้ตลอด ๗ วัน แล้วกลับออกมาพบกันและกัน ยินดีสวมกอดกัน กล่าวแก่กัน และกันในที่นั้นว่า มีโชคดีที่รอดมาได้ แล้วก็ตกลงกันในการตั้งต้น ประพฤติธรรม กันใหม่ต่อไป ชีวิตมนุษย์ก็ค่อยเจริญขึ้น จาก ๑๐ ปี ตามลำดับๆ จนถึงสมัย ๘ หมื่นปี อีกครั้งหนึ่ง

จนกระทั่งเป็นสมัยแห่งศาสนาของพระพุทธเจ้า มีพระนามว่า เมตเตยย สัมมาสัมพุทธะ

ปา. ที. ๑๑/๗๐-๘๐/๓๙-๔๗.

 



 
 
พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์