เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 
  แม่เรือนชื่อเวเทหิกา (ทดสอบจิตใจนายหญิง) 149  
 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๗๔


แม่เรือนชื่อเวเทหิกา



              [๒๖๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ที่พระนครสาวัตถี นี้แหละ มีแม่เรือนคนหนึ่งชื่อว่า เวเทหิกา

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย เกียรติศัพท์อันงามของแม่เรือนชื่อว่าเวเทหิกา ขจรไปแล้ว อย่างนี้ว่าแม่เรือนชื่อว่าเวเทหิกา เป็นคนสงบเสงี่ยม อ่อนโยน เรียบร้อย

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แม่เรือนเวเทหิกา มีทาสีชื่อ กาลี เป็นคนขยัน ไม่เกียจคร้าน จัดการงานดี ต่อมา นางกาลีได้ คิดอย่างนี้ว่า เกียรติศัพท์อันงามของ นายหญิง ของเราขจรไปแล้วอย่างนี้ว่า แม่เรือนชื่อว่าเวเทหิกา เป็นคนสงบเสงี่ยม อ่อนโยน เรียบร้อย ดังนี้

          นายหญิงของเรา ไม่ทำความโกรธที่มีอยู่ภายในให้ปรากฏ หรือไม่มี ความโกรธอยู่เลย หรือว่านายหญิงของเรา ไม่ทำความโกรธที่มีอยู่ภายในให้ปรากฏ ก็เพราะเราจัดการ งานทั้งหลายเรียบร้อยดี ไม่ใช่ไม่มีความโกรธ

          อย่ากระนั้นเลย จำเราจะต้องทดลองนายหญิงดู

          วันรุ่งขึ้นนางกาลีทาสี ก็แสร้งลุกขึ้นสาย

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฝ่ายแม่เรือนเวเทหิกา ก็ได้ตวาดนางกาลีทาสีขึ้นว่า
เฮ้ย อีคนใช้กาลี นางกาลีจึงขานรับว่า อะไรเจ้าขา.

          เว. เฮ้ย เองเป็นอะไรจึงลุกจนสาย.

          กา. ไม่เป็นอะไรดอก เจ้าค่ะ.

          นางจึงกล่าวอีกว่า อีคนชั่วร้าย ก็เมื่อไม่เป็นอะไร ทำไมเองจึงลุกขึ้น จนสาย ดังนี้แล้ว โกรธ ขัดใจ ทำหน้าบึ้ง.

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทีนั้นนางกาลีทาสีจึงคิดว่า นายหญิงของเรา ไม่ทำความ โกรธ ที่มีอยู่ในภายในให้ปรากฏเท่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความโกรธ ที่ไม่ทำความโกรธ ที่มีอยู่ในภายในให้ปรากฏ ก็เพราะเราจัดการงานทั้งหลายเรียบร้อยดี ไม่ใช่ไม่มี ความโกรธ

อย่ากระนั้นเลย เราจะต้องทดลองนายหญิงให้ยิ่งขึ้นไป

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถัดจากวันนั้นมา นางกาลีทาสี จึงลุกขึ้นสายกว่านั้นอีก ครั้งนั้น แม่เรือนเวเทหิกาก็ตวาดนางกาลีทาสีอีกว่า เฮ้ย อีคนใช้กาลี.

          กา. อะไรเล่า เจ้าข้า.

          เว. อีคนใช้ เองเป็นอะไรจึงนอนตื่นสาย.

          กา. ไม่เป็นอะไรดอก เจ้าค่ะ.

          นางจึงกล่าวอีกว่า เฮ้ย อีคนชั่วร้าย ก็เมื่อไม่เป็นอะไร ทำไมเองจึงนอน ตื่นสายเล่า.

          ดังนี้แล้ว โกรธ ขัดใจ แผดเสียงด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทีนั้น นางกาลีทาสีจึงคิดดังนี้ว่า นายหญิงของเรา ไม่ทำ ความโกรธที่มีอยู่ในภายในให้ปรากฏเท่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความโกรธ ที่ไม่ทำความโกรธ ที่มีอยู่ในภายในให้ปรากฏ ก็เพราะเราจัดการงานทั้งหลายให้เรียบร้อยดี ไม่ใช่ไม่มี ความโกรธ

          อย่ากระนั้นเลย เราจะต้องทดลองให้ยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีก ดังนี้

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย แต่นั้นมา นางกาลีทาสีก็ลุกขึ้นสายกว่าทุกวัน ครั้งนั้น แม่เรือนเวเทหิกาผู้นาย ก็ร้องด่าตวาดนางกาลีทาสีอีกว่า อีกาลีตัวร้าย.

          กา. อะไรเล่า เจ้าข้า.

          เว. อีคนใช้ เองเป็นอะไร จึงตื่นสายนักเล่า.

          กา. ไม่เป็นอะไรดอก เจ้าค่ะ.

          นางจึงกล่าวอีกว่า เฮ้ย อีชาติชั่ว ก็ไม่เป็นอะไร ทำไมจึงนอนตื่นสายนักเล่า ดังนี้แล้วโกรธจัด จึงคว้าลิ่มประตู ปาศีรษะ ปากก็ว่า กูจะทำลายหัวมึง

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย คราวนั้นนางกาลีทาสีมีศีรษะแตก โลหิตไหลโซม จึงเที่ยวโพนทะนา ให้บ้านใกล้เคียงทราบว่า คุณแม่คุณพ่อทั้งหลาย เชิญดูการ กระทำ ของคนสงบเสงี่ยม อ่อนโยน เรียบร้อยเอาเถิด ทำไมจึงทำแก่ทาสี คนเดียว อย่างนี้เล่า เพราะโกรธเคืองว่า นอนตื่นสาย จึงคว้าลิ่มประตูปาเอาศีรษะ ปากก็ว่า กูจะทำลายหัวมึง ดังนี้

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย แต่นั้นมาเกียรติศัพท์อันชั่วของแม่เรือนเวเทหิกาก็ขจรไป อย่างนี้ว่า แม่เรือนเวเทหิกา เป็นคนดุร้าย ไม่อ่อนโยน ไม่สงบเสงี่ยม เรียบร้อย แม้ฉันใด

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุบางรูปในพระธรรมวินัยนี้ ก็ฉันนั้น เป็นคนสงบเสงี่ยม จัด เป็นคนอ่อนโยนจัด เป็นคนเรียบร้อยจัด ได้ก็เพียงชั่วเวลาที่ยังไม่ได้กระทบ ด้วย คำอันไม่เป็นที่พอใจเท่านั้น

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อใด เธอกระทบถ้อยคำอันไม่เป็นที่พอใจเข้า ก็ยังเป็น คนสงบเสงี่ยม อ่อนโยนเรียบร้อยอยู่ได้

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อนั้นแหละ ควรถือว่าเธอเป็นคนสงบเสงี่ยม เป็นคน อ่อนโยน เป็นคนเรียบร้อยจริง

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราไม่เรียกภิกษุรูปที่เป็นคนว่าง่าย ถึงความเป็นคนว่าง่าย เพราะเหตุได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ แลคิลานปัจจยเภสัชบริขารว่า เป็นคนว่าง่าย เลย

ข้อนั้นเพราะเหตุไร?

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะภิกษุรูปนั้นเมื่อไม่ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ แล ะคิลานปัจจยเภสัชบริขารนั้น ก็จะไม่เป็นคนว่าง่าย จะไม่ถึงความเป็นคนว่าง่ายได้

          ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุรูปใดแล มาสักการะเคารพ นอบน้อม พระธรรม อยู่ เป็นคนว่าง่าย ถึงความเป็นคนว่าง่าย เราเรียกภิกษุรูปนั้นว่า เป็นคนว่าง่าย ดังนี้

          เพราะฉะนั้นแหละ ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้ สักการะ เคารพนอบน้อมพระธรรม จักเป็นผู้ว่าง่าย จักถึงความเป็นคนว่าง่าย ดังนี้.

 
พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์